วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ฟิคKrisTaoลำนำบุปผา ฉากตัดตอน บทเพลงรัก







เสียงสายน้ำคลอเสียงเนื้อกายที่เข้ากระทบ แสงสีเขียวอ่อนจากหิ่งห้อยคลอแสงสะท้อนจากดวงจันทร์ที่กระทบผิวน้ำ บรรยากาศรอบด้านนั้นหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจแต่สองร่างที่แนบชิดกลับร้อนรุ่มราวกับเปลวเพลิงที่ไม่อาจมอดดับ
จุมพิตจูบประทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งได้รับรสสัมผัสก็ยิ่งถวิลหาอ้อมกอดแกร่ง ดวงตาเรียวสวยหยาดเยิ้มประกายแสงสีนวลจากดวงจันทร์ชวนมอง อี้ฟานเกลี่ยนิ้วไปตามพวงแก้มพินิจใบหน้ารูปงาม ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตกอยู่ในห้วงความรักไม่อาจขึ้นสู่ห้วงหัวใจนั้นได้อีกแล้ว
"ข้ารักเจ้า จื่อเทา..." คำบอกรักกระซิบแผ่วเบาอ่อนโยน รอยยิ้มบางยกยิ้มก่อนจะก้มลงจุมพิตอีกครั้งซ้ำแล้วครั้งเล่า เสียงหวานภายใต้เรือนร่างครางกระเส่า "อ่ะ... อือ..." ยามเมื่อมือแกร่งที่เย็นเฉียบเเตะลงบนผิวกายที่ร้อนระอุ รูขุมขนตั้งชันไปทั่วทุกอณูของเรือนร่าง
มือหนาปัดป่ายไปตามร่างบาง ความสมบูรณ์แบบของจื่อเทา กล้ามเนื้อยามเมื่อลูบคลึงยิ่งเพิ่มตันหาราคะภายในจิตใจให้พลุกพล่าน อี้ฟานก้มลงจูบดูดดันที่เนินอก เมื่อเม็ดติ่งสีชมพูนั่นยั่วยวนหัวใจชวนให้น่าลิ้มรส แผ่นอกบางของชายหนุ่มแอ่นกายกระสัน ความรู้สึกปั่นป่วนแล่นปราบจนไม่อาจสะกดกลั้นเสียงหวานสั่นเครือ
"อ่ะ... อา พี่อี้ฟาน..."
ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มหวานที่เอ่ยเรียก ภายในกายก็ยิ่งรู้สึกต้องการจื่อเทามากขึ้นเท่านั้น ร่างแกร่งขยับขึ้นจุมพิตสบดวงตาเรียวสวยที่หลับพริ้ม ใบหน้าแดงซ่านตามอุณหภูมิของร่างกายที่พลุกพล่าน มือเรียวยึดจับไหล่แกร่งของอี้ฟานก่อนจะหายใจหนักหน่วงยามเมื่ออี้ฟานผละริมฝีปากออกมา วงแขนแกร่งช้อนเอวคอดเพื่อแอ่นรับแก่นกายที่แข็งขืนร้อนดั่งเหล็กกล้าที่ตีไฟสวนเข้ามา
ยามเมื่อรับรู้ความใจร้อนของอี้ฟาน จื่อเทากัดฟันแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดกระสัน อี้ฟานโน้มตัวจูบจื่อเทาอีกครั้ง หวังปลอบประโลมให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย ลิ้นเรียวเกี่ยวกระหวัดพัวพันอยู่ภายใน ดื่มด่ำรสชาติอันหอมหวานดั่งน้ำผึ้งก็ไม่ปาน ยามเมื่อสบตาเรียวสวยที่หยาดเยิ้ม ดวงตาเรียวคมหรี่ลงราวกับยกยิ้มกรุ้มกริ่ม ยิ่งทำให้จื่อเทารู้สึกอายจนใบหน้าแดงจัด วงแขนโอบกอดลำคอแกร่งของอี้ฟานเอาไว้แนบแน่น ยามเมื่อแก่นกายแกร่งสวนทางเข้ามา
"อ่ะ อา.... ฮึก!"
ความรู้สึกปั่วป่วนยามเมื่อสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่แข็งขืน ราวกับร่างกำลังแยกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็รู้สึกดีตีรวนกับความเจ็บปลาบนั้นจนอกกระสั่นร่างกายกระตุกเกร็ง วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอาไว้คอยลูบแผ่นหลังปลอบประโลม กลีบปากอวบอิ่มจูบซับน้ำตาของจื่อเทาที่ไหลออกมาอย่างช้าๆ ความสุขล้นที่ทะลักทำให้จื่อเทาไม่อาจเก็บกลั้นความรู้สึก
"จื่อเทา..." เสียงครางทุ้มต่ำเมื่อแก่นกายอยู่ในช่องทางที่คับแคบ มันบีบรัดและร้อนรุ่มจนไม่อาจที่จะทนฝืน อกของเขานั้นแทบจะระเบิดไม่อาจสะกดกลั้นความใคร่ยามเมื่อแก่นกายฝังลึกเข้ามา ยิ่งผิวกายที่ชื้นเหงื่อเบียดเสียดจนร่างกายแนบชิด ก็ยิ่งเพิ่มความกระสันปั่นป่วน
กลีบปากอวบอิ่มจูบประทับไปตามใบหน้า ก่อนจะหยุดลงอยู่ที่ริมฝีปากกระจับได้รูปอีกครา สองแขนโอบรัดเอวบาง ปรนเปรอชายหนุ่มด้วยรสจูบร้อนแรง สะโพกแกร่งค่อยๆขยับอย่างช้าๆพร้อมกับร่างบางที่ผวาเฮือก ความกระสันแล่นพล่านไปตามร่างกาย มันรู้สึกวาบหวิวจนต้องครางอือสั่นเครือ
เสียงหวานของชายหนุ่มชวนให้อยากดื่มด่ำกลืนกินจื่อเทาไปทั้งร่าง อี้ฟานยิ่งขยับกายสวนทางรวดเร็วและหนักหน่วง เสียงจวบจาบจากรสจูบช่างร้องแรงไม่ปราณี เมื่อความอดทนอดกลั้นนั้นถึงขีดสุด เหงื่อร้อนไหลอาบกายบรรเทาความร้อนรุ่มยามเมื่อร่างกายกำลังเสียดสี จื่อเทายิ่งโอบกอดลำคอยึดไหล่แกร่งเมื่อร่างกายจวนเจียนแทบจะระเบิด
ดวงตาเรียวสวยปรือขึ้นหยาดเยิ้ม สบตาคมบนใบหน้ารูปงามที่ยกยิ้ม อี้ฟานก้มลงจูบซับน้ำตาปริ่มก่อนจะผละออกมา รีบเร่งสะโพกของเขาเมื่อความคับแน่นนั้นถึงขีดสุด ยิ่งทำให้จื่อเทาถึงกับแอ่นร่างรับสัมผัสที่อี้ฟานสวนเข้ามา
แก่นกายที่แข็งขืนเสียดสีเข้ากับแผงกล้ามเนื้อของผู้ที่ทาบทับ ยิ่งทำให้รู้สึกกระสันปวดหนึบจนถึงขีดสุด เมื่อความคับแน่นสวนเข้ามาจนถึงสุดทางของความใคร่นั้น สิ่งที่อัดอั้นก็ไม่อาจที่อดทนอดกลั้นได้อีกต่อไป เสียงหวานครางกระเส่า "อ่ะ อา..." ปล่อยน้ำรักเปรอะเปื้อนเต็มร่างกาย พร้อมๆกับที่อี้ฟานกระแทกกระทั้นเข้ามาจนสุดด้ามเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายกระตุกเกร็งถึงสองครั้งก่อนจะหยุดลงเมื่อปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนหมดสิ้น...
เสียงหอบหายใจหนักหน่วงคลออยู่ที่ลำคอของอี้ฟานเมื่อร่างแกร่งยังคงทาบทับเรือนร่างของจื่อเทา ตัวเขาค่อยๆขยับกายยันแขนขึ้นมองใบหน้ารูปงามที่อิดโรย ยามเมื่อเห็นดวงตาที่ปรือขึ้นเหงื่อเม็ดใสผุดพรายกระทบแสงจันทร์ที่สาดส่อง ความประทับใจนั้นทำให้เขาอยากจะกลืนกินจื่อเทาอีกครั้ง และอีกครั้ง ให้ร่างกายของชายหนุ่มแตกละเอียดภายในอ้อมกอดของเขา
กลีบปากอวบอิ่มยกยิ้มกรุ้มกริ่ม สายตาของอี้ฟานที่ทอดมองลงมานั้นแทบอยากให้จื่อเทาใช้สองนิ้วจิ้มไปที่ดวงตาคมคู่นั้นเสีย เพียงแค่เห็นสายตาก็เดาใจของผู้ที่อยู่ตรงหน้าออก จื่อเทาเอ่ยดักคอเอาไว้ว่า "ท่านอยากจะฆ่าข้าให้ตายภายใต้อ้อมกอดของท่านหรือไร ถึงได้มองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น"
อี้ฟานกระตุกยิ้มที่มุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์ชวนให้น่าหงุดหงิดใจ เขาเอ่ยตอบโต้กลับไปว่า "ข้ามองเจ้าเช่นไรกัน หืม..." คำหยอกล้อว่าพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ จนจื่อเทาต้องบีบจมูกโด่งเป็นสันนั่น ดันตัวของอี้ฟานให้ลุกขึ้นไป ขยับร่างกายลุกขึ้นตามแต่ความคับแน่นที่ไม่ยอมอ่อนลงทำให้เมื่อขยับกายความรู้สึกกระสันก็แล่นไปตามก้นกบ จนเผลอคราง "อ๊ะ!" ออกมา จื่อเทายกมือขึ้นปิดปาก ใบหน้าแดงซ่านเหลือบมองอี้ฟานที่ยกยิ้มกรุ้มกริ่ม
"หากจะโทษใครก็ควรเป็นตัวเจ้าเองที่ยั่วข้าเช่นนี้" เสียงหัวเราะหึหึในลำคอที่ป่วนประสาททำให้จื่อเทารู้สึกอาย ชายหนุ่มรีบผลักอกแกร่งที่โน้มตัวเข้าหาเพื่อยับยั้งหัวใจที่กำลังเต้นแรง ชายหนุ่มเบือนใบหน้าหลบหนีสายตาแล้วเอ่ยเสียงสั่นว่า
"ข้าออกมานานมากแล้ว ป่านนี้ชิ่งจูคงถูกจับได้และถ้าเป็นเช่นนั้นมันคงไม่ดีนักหากพวกเขาประมือกัน ชิ่งจูยิ่งเป็นคนใจร้อนอยู่ด้วย ขะ... ข้า... ข้าเป็นห่วงเขา" คำแผ่วเบาเอ่ย พลางเหลือบมองอี้ฟานที่ยังคงยกยิ้มอยู่ ดูท่าท่านแม่ทัพจะอารมณ์ดีเกินไปแล้ว
อี้ฟานพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขารู้สึกเสียดายหากต้องปล่อยจื่อเทาไปทั้งๆที่ชายหนุ่มน่าจับกินถึงเพียงนี้ ใบหน้ารูปงามพ่นลมหายใจออกมาผะแผ่วก่อนจะดึงกายออกมา เหยียดตัวคุกเข่าต่อหน้าจื่อเทา ร่างกายกำยำสมส่วนยามเมื่อต้องแสงชวนให้น่าหลงใหล ความแข็งแกร่งของอี้ฟานใครๆก็ปรารถนาอยากให้เขาปกป้อง ดังเช่นจื่อเทา แม้ว่าจะเป็นชายแต่ก็มีรูปร่างบอบบางดังบุรุษที่งดงามยากนักที่ใครจะหักห้ามใจ
อี้ฟานแลเหมือนคนโง่คนหนึ่งที่ปล่อยจื่อเทาไปในเพลานี้ แต่เขารู้ตัวดีว่า จื่อเทาไม่อาจไปกับเขาได้อีกเช่นกัน คนรักของเขามักชอบกระทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดเสมอ ชายหนุ่มคงมีแผนการอยู่ในใจแล้ว หรือจื่อเทาคิดจะทำศึกประชันหน้ากับเขาจริงๆกันเล่า เพียงแค่คิดก็รู้สึกขบขันอยู่ภายในใจ จื่อเทาน่ะหรือจะกล้าลงมือทำร้ายเขา ก็เหมือนที่เขาไม่กล้าลงมือทำร้ายจื่อเทาเช่นกัน หากเขาปล่อยมือของชายหนุ่มไปแล้วนั้น หลังจากคืนนี้เขาและจื่อเทาอาจกลายเป็นศัตรูกันจริงๆ
มือแกร่งรีบจับมือของชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อร่างบางเปลือยเปล่าลุกขึ้นหมายจะชำระล้างร่างกายที่ธารน้ำ ทำให้จื่อเทาต้องก้มลงมอง ยามเมื่อเห็นแววตาของอี้ฟานที่มองขึ้นมานั้นชวนให้รู้สึกปวดใจ เหตุใดต้องทำสายตาเศร้าหมองเช่นนั้นด้วยเล่า...
อี้ฟานลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาอุ้มร่างของจื่อเทาขึ้นโดยที่ชายหนุ่มไม่คิดขัดขืน ดวงตาเรียวสวยที่สะท้อนแสงงดงามนั้นภายในใจของอี้ฟานรำลึกเอาไว้เสมอว่าคนคนนี้คือของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ว่าจื่อเทาจะเป็นใคร ถึงอย่างไรก็ยังเป็นจื่อเทาที่เขารักมากที่สุด ก่อนจากกันในครั้งนี้จึงอยากใช้เวลาที่มีค่าให้มากที่สุด
จื่อเทามองวงหน้าด้านข้างรูปงาม ดวงตาคมดุหันไปทางสายธารไม่กล่าวสิ่งใด พาร่างของเขาไปยังสายน้ำที่ไหลเอื่อย ร่างแกร่งค่อยๆเดินลงน้ำอย่างช้าๆ พร้อมกับปล่อยจื่อเทาให้สัมผัสสายน้ำที่เย็นเฉียบ วงแขนเรียวยังคงโอบไหล่ของอี้ฟานเอาไว้ เงยหน้าสบตาอาลัยรักที่ทอดมองลงมา แววตาของอี้ฟานเต็มไปด้วยความห่วงหา ไม่อยากปล่อยจื่อเทาให้จากไป
"ข้ารักเจ้าจื่อเทา... ต่อให้เจ้าเป็นศัตรูข้าก็ไม่อาจตัดคำรักนั้นออกจากเจ้า ความตายเท่านั้นกระมังที่จะทำให้ทุกคนเห็นว่าข้ารักเจ้ามากถึงเพียงไหน มิใช่แค่ความใคร่ชั่วครั้งคราว ทำไมกันนะ พวกเขาจึงคิดว่าคนที่น่าหลงใหลเช่นเจ้าเป็นคนเลวไปเสีย ทั้งๆที่ข้าสมควรจะได้รับคำนั้นเสียมากกว่า"
จื่อเทาสบใบหน้าที่ย่นคิ้วเข้าหากันแน่น ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ เขาเอื้อมนิ้วเกลี่ยไรผมสลวยของอี้ฟาน โอบอุ้มใบหน้าด้วยสองมือ "ถูกแล้วล่ะ ข้าคือคนเลว... เพราะความเห็นแก่ตัวของข้าทำให้ใครหลายๆคนต่างพบแต่ความสูนเสีย หากข้าไม่พึงพอใจสิ่งใดข้าจะกำจัดมันซะ... ท่านยังคิดว่าข้าเป็นคนดีในสายตาท่านอีกหรือ?"
อี้ฟานมองจื่อเทานิ่งค้าง เขามองลึกเข้าไปในแววตาของจื่อเทาที่ยกยิ้ม สิ่งที่จื่อเทาเอ่ยออกมานั้นหาใช่ความจริงไม่ ตั้งแต่รู้จักจื่อเทามานั้นมีหรือที่เขาจะเดาใจจื่อเทาไม่ออก ความฉลาดของจื่อเทา ทุกสิ่งที่กระทำมักซ่อนแผนการเอาไว้เสมอ คนๆนี้เดิมทีคือผู้ที่มีจิตใจใสสะอาด แต่มันกลับแปดเปื้อนเพราะเขาที่นำพามาพบกับเรื่องที่ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนไป อี้ฟานคลี่ยิ้มออกมาบางๆ เขาเกลี่ยไรผมของชายหนุ่มขึ้นทัดหู วงแขนแกร่งโอบกอดแนบแน่น สูดกลิ่นกายของจื่อเทาจนเต็มปอด เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า
"ใช่... เจ้าคือคนดีของข้าเสมอ... ดังนั้นแล้ว หากคิดว่าสิ่งที่เจ้ากระทำนั้นถูกต้อง ข้าก็เชื่อว่ามันถูกต้องเช่นกัน... ข้าเชื่อใจเจ้าจื่อเทา... ตัวข้านั้นโง่เขลาไม่อาจวางแผนการได้ปราดเปรื่องเช่นเจ้า ไม่ว่าเช่นไรข้าก็อยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ..."
วงแขนแกร่งกระชับโอบกอดแนบแน่นอีกครั้ง ทำให้จื่อเทารู้สึกตื้นตันเมื่อได้ยิน เขากอดตอบอี้ฟานซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นอกแกร่ง ความอบอุ่นที่ได้รับตราตรึงอยู่ในจิตใจ รอยยิ้มบางเปี่ยมสุขยกยิ้มเมื่อได้รับฟังในสิ่งที่อี้ฟานกล่าว ภายในค่ำคืนที่เหน็บหนาว กลับอบอุ่นราวกับร่างกายต้องแสงตะวัน โอบกอดด้วยวงแขนแกร่งเสมือนปกป้องเขาจากความโชคร้าย...
ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง... หากพวกเขาไม่ยอมให้เราอยู่ด้วยกัน คงเป็นความตายเท่านั้นที่จะยุติเรื่องราวบัดซบเหล่านี้... เมื่อเรื่องมาถึงจุดสิ้นสุด ข้าหวังว่าจะเห็นภาพของเราสองคนเดินจูงมือมุ่งหน้าสู่แสงอรุณที่สาดส่องท่ามกลางบุปผานับหมื่น ข้ายิ้มให้ท่านอย่างเปี่ยมสุข และท่านคอยกระชับฝ่ามือของข้า และยิ้มตอบรับเดินไปข้างหน้าด้วยกัน...
ข้าให้สัญญา...

บทเพลงรักจากกลีบเถาฮวาคลอเสียงไปตามสายลมเอื่อย... อี้ฟานทอดมองแผ่นหลังบางที่ควบม้าจากไปอย่างช้าๆ สายตาคมทอดมองออกไปไกลแสนไกล มองแผ่นหลังของคนรักที่จากไปด้วยความรู้สึกคิดเป็นห่วง ภายในใจนั้นรู้สึกเจ็บปลาบเมื่อไม่อาจไขว่คว้าให้จื่อเทากลับมา...
บทเพลงรักท่ามกลางสายลมนี้ ข้าขอมอบให้แก่เจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนาในใจนั้นคือหวังให้เจ้าปลอดภัย ต่อให้เจ้าปักกระบี่มาที่กลางอกของข้า ตัดขั้วหัวใจจนขาดสะบั้น ตัวข้านั้นจะไม่คิดกล่าวโทษเจ้าเลย นอกเสียจากคำขอบคุณที่เจ้าทำให้ข้ารู้จักกับรักแท้... ข้าจะรอเจ้า จื่อเทา...  
ลาก่อน...






....
โอะ โย๊ะ โหยว... น้องเทาคิดจะทำอะไรกันน๊า... เดาใจไม่ออกเลยจริมๆ
อ่านความคิดของน้องเทาแล้วกลัวใจเหลือเกินว่าจะฆ่าพี่ฟานหมกป่าแล้วฆ่าตัวตายตาม
555 ถ้าเป็นแบบนั้นเลิกปั่นฟิคท่านหญิงต่อเถอะ คัท! คัทจบไปเลย

ติดตามตอนต่อไปในอีก... 2-3วันข้างหน้านะคะ อิอิ

1 ความคิดเห็น:

  1. Play Live Dealer Casino Sites in India » Live Casino Sites
    With Live Casino, luckyclub.live we want you to have the best odds on all your favourite live casino sites in India, including Blackjack, Roulette, Live

    ตอบลบ