ถ้าหากการขอพรจากดวงดาวที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสามารถทำให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงได้ผมเองก็หวังว่าความฝันของผมจะเป็นจริงสักครั้งหนึ่ง...
"จื่อเทาดื่มนมซะสิ
อา...เป็นอะไรไปนะทำไมดูหงอยๆล่ะ" ผมเงยหน้ามองเจ้านายที่นั่งยองๆคุยกับผมพลางดันจานใบสวยซึ่งบรรจุนมไว้เต็มมาให้
จ้องสบตาเจ้านายที่ทอดมองผมด้วยแววตาที่ห่วงใยฝ่ามือหนาที่อบอุ่นลูบกลุ่มขนสีดำนุ่มนิ่มไปมาด้วยความอ่อนโยน
"เมี้ยว" ผมไม่อยากดื่มนมผมโกรธคุณอี้ฟานได้ยินไหม!
แต่ถึงจะตะโกนไปเท่าไรเจ้านายที่รักของผมก็ไม่อาจรู้ว่าผมกำลังคิดยังไงกับเขา
ความโกรธและน้อยใจทำให้ผมไม่อาจทนมองใบหน้าคมที่ทอดมองอยู่ได้อีกต่อไปจนต้องหันหลังให้และเป็นผมที่หนีออกไปเสียเอง
"เฮ้อ! โกรธอะไรฉันอีกละเจ้าแมวน้อย"
น้ำเสียงห้วงใยปนเหนื่อยล้าหลังจากที่คาดคั้นให้ผมกินอะไรลงท้องเสียหน่อยทำให้เจ้านายกังวลเมื่อผมไม่ยอมกินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน
ใบหน้าคมก้มลงมองลูกเเมวที่เอาแต่นั่งนิ่งหันหลังหลบอยู่ใต้เตียง
"จื่อทาวววว จื่อเทาอ่าออกมาหาพ่อเถอะมา"
ผมหันไปมองร่างสูงที่นอนตะแคงอยู่ที่พื้นพลางทำสีหน้างอลง้อใบหน้าคมที่แสดงสีหน้าออดอ้อนนั่นไม่ว่าครั้งไหนๆผมก็มักจะหลงกลตลอดต่อให้โกรธมากแค่ไหนผมก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธเขาได้เลย
"เมี้ยวๆๆ!" ผมไม่อยากได้คุณเป็นพ่อ! แบร่!
"อ่าเจ้าแมวน้อยออกมาเล่นกับอี้ฟานสิเร็วๆเมี้ยวๆๆๆ" อี้ฟานพยายามใช้ของเล่นมาล่อเพื่อให้ผมออกมา ผมหันไปมองเจ้าหางกระรอกยาวๆสีชมพูหวานแหวนุ่มนิ่มน่าสัมผัสก่อนจะกลืนน้ำลายดักเฮือกและหันกลับมาทางเดิมเพื่อข่มใจ
ทั้งๆที่อยากจะวิ่งเข้าไปตระครุบใจแทบขาดแต่ดูท่าเจ้านายผมไม่ยอมเลิกง่ายๆพยายามยื่นเจ้าสิ่งนั้งมาสะกิดหางของผมที่เริ่มแกว่งไปมาด้วยความหงุดหงิดใจ
"ไม่เล่นจิงหรอ
ไม่เล่นๆอ่า จื่อเทาเมี้ยวๆๆ เป็นเด็กดีนะ"
ผมหันไปมองอี้ฟานอีกครั้งผู้ชายคนนี้กำลังยิ้มให้กับผมพลางทำสายตาเจ้าเล่ห์ซุกซนพยายามยั่วสัตว์เลี้ยงให้ได้และมันก็ได้ผลเพราะสัญชาติยานมันอดใจไม่ไหวกับเจ้าขนนุ่มนิ่มนี่
รีบเอี้ยวตัวกลับมาวิ่งตามสิ่งที่อี้ฟานกำลังใช้หลอกล่อลูกเเมว
"ฮ่า! จับได้แล้ว!"
ฝ่ามือหนาตะครุบตัวผมเอาไว้หมับทันทีที่ผมออกมาจากใต้เตียง
ผมดิ้นเล็กน้อยเพราะยังโกรธผู้ชายคนนี้อยู่แต่เมื่อจมูกโด่งๆนั่นกดมาที่แก้ม
มันทำให้ผมถึงกับแข็งทื่อสงบนิ่งจ้องมองผูชายคนนี้ราวกับถูกสะกดจิต หัวใจเต้นระรัวจนมันแทบจะทะลุออกมาให้ได้
ปิ้งป่อง!
เสียงกดออดหน้าบ้านทำให้ร่างสูงเอี้ยวตัวกลับไปมองก่อนจะหันมามองผมพลางเบิกตาโต
"อี้ชิงมาแน่ๆเลยล่ะนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะเด็กดี"
อี้ฟานวางผมลงไว้ที่เตียงก่อนจะรีบวิ่งไปหน้าประตูห้องเพื่อให้ใครบางคนเข้ามาและเขาก็เดาไม่ผิดเลยว่าเป็นใคร
ผมนั่งมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในห้องของอี้ฟานพลางยิ้มให้ผมจนตาหยี
"ว่าไงจื่อเทาสบายดีไหม
อี้มีขนมมาฝากด้วย อ้าว..."
ผมรู้ว่าการเดินหนีผู้ชายคนนี้เป็นการเสียมารยาทแต่ทว่าการที่ทนอยู่กับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าทำให้ผมทนไม่ได้เช่นกัน
ผมเดินไปที่เตียงนอนซึ่งอี้ฟานมอบให้ผมเป็นของขวัญฉลองครบสามเดือนที่มาอยู่ที่นี่ก่อนจะแกล้งฟุบหลับไม่สนใจพวกเขา
คอยเงียบหูฟังเสียงของพวกเขาที่กำลังหยอกล้อด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
"อี้ฟานอ่าอย่าสิเลย์จักจี้นะ"
"ก็เลย์หอมนี่ใครอี้ฟานหอมหน่อยนะ"
เหอะ! หน้าไม่อาย...
สุดท้ายแล้วผมก็ทนไมได้และเป็นคนลุกหนีพวกเขาออกไปข้างนอกแทน...
ผมแหงนมองท้องฟ้าซึ่งประดับไปด้วยหมูดาวที่มีเพียงแค่น้อยนิดเพราะถูกแสงไฟของบ้านเรือนนั้นบดบังแทบไม่มีเหลือ
ผมเคยดูหนังกับอี้ฟานบ่อยและรู้มาอย่างหนึ่งว่าการขอพรกับดวงดาวจะทำให้ความปรารถณาของเราสมหวังแต่ผมจะสมหวังได้ยังไงในเมื่อที่นี่ไม่มีดาวตกเลยสักดวงอย่าว่าแต่ดาวตกเลยลำพังดาวที่กำลังประดับอยู่บนท้องฟ้ายังส่งแสงริบหลี่แทบมองไม่เห็น
ผมฟุบลงอยู่ที่ราวระเบียงของบ้านนั่งรับลมที่พัดเอื่อยด้วยความรู้สึกน้อยใจเพราะรู้ว่าตอนนี้อี้ฟานกำลังทำอะไรอยู่และมันเป็นเรื่องที่แมวอย่างผมรับไม่ได้เสียด้วยสิ
ถึงแม้ว่าอี้ฟานจะดูเหมือนรักผมแต่ทว่าผมก็เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งเท่านั้น
ในยามที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาต่อให้เขาจะดูเหมือนใส่ใจมากแค่ไหนอี้ฟานก็มักจะลืมผมมาตลอด
มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะแกล้งประชดให้เขาทุกข์ใจเพราะเห็นผมไม่ยอมกินอะไรเลย
"ไงโดนทิ้งอีกแล้วสิ"
น้ำเสียงเหน็บแนมของเจ้าแมวจรจัด
เจ้าลู่หานชะเง้อหน้าออกมาจากหลังคาถามผมด้วยถ่อยคำที่เยาะเย้ย
ผมหันไปมองแวบหนึ่งก่อนจะทำเมินเฉยไม่สนใจและแน่นอนว่าไอ้แมวตัวสีขาวบ้านี่ต้องโกรธอย่างแน่นอน
"เหอะ
ทำเป็นเมินนะไงล่ะบอกว่าเจ้านายรักนักรักหนาสุดท้ายก็ถูกทิ้ง
มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ซะทุกคนนั่นแหละ"
ผมมองเจ้าแมวร่างเปรียวกำลังกระโดดลงมาจากหลังคาและค่อยๆเดินอาดๆมาทางราวระเบียงเพื่อมาพูดทับถมผม
"พูดมากก็ดีกว่าคนบางคนที่ไม่มีเจ้าของแล้วขโมยข้าวคนอื่นกินละนะ"
ผมตอกกลับไปด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบแต่ทว่าไอ้บ้านี่มันหน้าด้านเกินจะเยียวยาทำให้มันไม่ทุกข์ร้อนกับคำของผมเลยสักนิด
"หึ! โทษฉันไม่ได้นี่
ก็ฉันมันแมวขโมย" เห็นไหมผมบอกแล้วว่าไอ้บ้านี่มันเกินจะเยียวยาจริงๆ
ผมมองลู่หานที่กระโดดผลุงลงไปที่ระเบียงในอานาเขตของผม
และหยุดยื่นเพ่งมองเข้าไปข้างในของบ้านผมด้วยความสนใจ
ดวงตากลมสุกใสเป็นประกายทำให้ผมไม่พอใจนัก
"โหววว
น่าสนใจดีนะถึงห้องจะเล็กแต่ฟอร์นิเจอร์นี่ครบครันดูท่าเจ้านายแกคงจะรวยไม่น้อย
แถมพาผู้ชายเข้ามานอนด้วยทุกคืนแบบนี้แมวบางตัวคงช้ำใจตายแย่" เจ้าแมวปากเสียหันมาชำเลืองมองผมด้วยหางตาพลางทำสีหน้าเยาะเย้ยผมเต็มที่
อดไม่ได้ที่ผมจะรู้สึกหงุดหงิดกระโดดตุบ! เข้าผลักลู่หานเต็มแรง
"นายอยากมีเรื่องกับฉันใช่ไหม!"
ผมถลึงตาตวาดลั่นด้วยความหงุดหงิด
แต่ก็เปล่งออกมาเพียงแค่แง้วๆนี่เท่านั้นแถมฟังยังไงก็ดูไม่น่าเกรงขามเหมือนเจ้าแมวข้างถนนนี่
"โอ๊ะๆๆๆ
เดี๋ยวนี้มีสู้มาจัดให้"
ลู่หานถกแขนของตนก่อนจะกำหมัดแน่นค่อยๆย่องมาทางผมอย่างเอาเรื่องทำให้แมวอย่างผมนี่ยอมไม่ได้กำหมัดเดินเข้าใส่ในทันที
แง้ว!!! เมี้ยว!! ง้ำ!
"อั่ก!" ผมกับลู่หานเราฟัดกันอย่างไม่มีใครยอมใครแถมเจ้าบ้านี่ก็กัดมาที่คอของผมเต็มแรงจนเจ็บ
ทำให้ผมถึงกับร้องเสียงหลงลั่นระเบียงพร้อมๆกับประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกมาด้วยความเร็ว
"ไอ้แมวบ้าแกแกล้งจื่อเทาของฉันเหรอ!"
น้ำเสียงทุ้มตวาดลั่นทำเอาผมกับลู่หานที่กำลังนัวกันอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
และลู่หานก็รีบกระโจนหนีด้วยความเร็วเมื่อเห็นอี้ฟานเดินหน้าตึงหมายจะจับพวกผมแยกออกจากกัน
โถ่ไอ้แมวขี้โอ่ไม่แน่จริงนี่หว่า
โด่วๆๆๆ อูยยยเจ็บง่า....
"ไม่เป็นไรนะ"
ผมเงยหน้ามองอี้ฟานพลางน้ำตาคลอหน่วยแต่เมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังเปลือยกายพร้อมๆกับรอยกลีบกุหลาบเต็มอกทำให้ผมไม่สบอารมณ์นัก
ความโกรธที่มีกับลู่หานกำลังครุกรุ่นทำให้ผมเหลืออดเหลือทนที่จะเห็นภาพนี้พยายามดิ้นขลุกขลักหนีออกมาจากอ้อมกอดแกร่งของอี้ฟาน แต่ดูท่าผู้ชายคนนี้ไม่ยอมง่ายๆ
"จื่อเทาไม่ต้องกลัวไม่มอะไรแล้ว"
ปล่อยนะปล่อยจื่อเทา!
"จื่อเทาดื้อกับอี้ฟานหรอ!"
น้ำเสียงดุดันทำให้ผมตกใจไม่น้อยสบตาของอี้ฟานที่ขมวดคิ้วยุ่ง
"เกิดอะไรขึ้นอี้ฟานจื่อเทาไม่ยอมเข้าบ้านหรอ"
เจ้านายของผมหันไปมองผู้ชายคนนั้นที่โผล่หน้าออกมาถามทำให้ผมรู้สึกโกรธจนหน้ามืดมือสั่นทันทีที่อี้ฟานหันกลับมาผมจึงกางเล็บข่วนใบหน้าของอี้ฟานด้วยความโกรธและน้อยใจอย่างลืมตัว
ทำให้ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดสบโอกาศให้ผมกระโดดหนีไปในความมืดโดยที่ไม่หันกลับไปมอง...
โอยยยย....
หิวข้าวจังเลย
ผมนอนฟุบอยู่บนพื้นหญ้านุ่มๆซึ่งเป็นสวนสาธารณะอยู่ห่างจากบ้านไปไม่ไกลนักหลังจากที่ผมทำร้ายอี้ฟานผมก็ไม่กล้ากลับไปสู้หน้าได้อีกแล้ว
ผมกลัว...
กลัวว่าอี้ฟานจะเกลียดเพราะเขาเป็นเจ้านายเมื่อสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไม่เชื่องอย่างผมทำร้ายเจ้านายมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะโดนเกลียด
"ดูสิฉันเห็นใครนอนหมดแรงอยู่ตรงนี้ด้วย"
เฮ้อ! จะมีสักครั้งไหมที่ผมจะได้อยู่อย่างความสุขเหมือนแมวปกติบ้าง...
มันก็ไม่แปลกนี่เนอะถ้าแมวอยากผมจะมีคู่อริไม่มีสิที่ว่าแปลก...
"ยุ่ง!"
ผมหันไปแหวเสียงใส่ก่อนจะหันกลับมานอนฟุบหน้าอยู่ตามเดิมใต้ต้นไม้สูงใหญ่หลังพุ่มไม้ข้างทางซึ่งใครผ่านไปมารับลองว่าไม่มีใครเห็น...
อยากจะพักผ่อนแต่กลับมีมารมาคอยกวนประสาท เฮ้อ! ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่มีใครเห็นแล้วเชียว
"นี่ฉันถามดีๆนะเนี่ย"
น้ำเสียงกวนๆถามผมพร้อมกับเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าพลางแสยะยิ้มแต่ผมไม่มีอารมณ์ที่จะทะเลาะกับเจ้านี่หรอกนะตอนนี้ผมอ่ะหิวสุดๆเลยล่ะ
"น่าแปลกนะที่เจ้านายแกปล่อยให้แกออกมาเดินเล่นข้างนอกไกลขนาดนี้"
"..."
"ไม่คุยก็ตามใจฉันก็ขี้เกียจมาทะเลาะกับเด็กอย่างแก"
ผมชำเลืองตามองเจ้าแมวร่างเปรียวสีขาวที่เดินจากไปก่อนจะกลับมานอนหลับตาดังเดิมด้วยความหิว
ถ้าผมหิวมากๆผมต้องนอนเพื่อไม่ให้เสียพลังงานสินะ...
ฮึก! คิดถึงอี้ฟานจัง...
"ทำไมแกยังอยู่ตรงนี้อีก" ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเงยหน้ามองต้นเสียงที่ถามผมและแน่นอนว่าเป็นเจ้าแมวจรจัดลู่หานที่ยืนค้ำหัวผมอยู่
ผมจึงลุกขึ้นนั่งพลางบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้านและจัดการอาบน้ำโดยที่ไม่สนใจเจ้าแมวที่นั่งมองผมอยู่
"นี่อย่าบอกนะว่าโดนทิ้งจริงๆ"
ผมชะงักกึกราวกับคำพูดเหมือนจี้ใจดำ
เงยหน้ามองเจ้าแมวสู่รู้ที่มองผมนิ่งผมเชิดหน้าไปทางอื่นไม่อยากเสวนาด้วยถ้าเจ้านี่รู้มีหวังต้องหัวเราะเยาะผมแน่ๆ
"สงสัยจะจริง"
น้ำเสียงเหน็บแนมพลางหลิ่วตามองจนน่าหงุดหงิด
"อย่ามายุ่งกับฉันได้ไหม"
ทางเดียวที่จะให้เจ้านี่เลิกยุ่งกับผมๆคงต้องนั่งหันหลังหนีอย่างเดียว
ได้ยินเสียงถอนลมหายใจของลู่หานที่ทอดยาวก่อนจะเดินผ่านพุ่มไม้ออกไปเสียงดังซวบ
ทันทีที่ผมอยู่ตามลำพังอาการห่อเหี่ยวในหัวใจของผมมันก็เริ่มกำเริบอีกแล้ว
ใบหูค่อยๆตกลงพลางทำสีหน้าเศร้าความหิวไม่เทียบเท่ากับความโหยหาไออุ่นที่กอดผมอยู่ทุกๆคืน
"ฮึก! ฮึก! ฮือออ...
อี้ฟานบ้าอี้ฟานใจร้าย" ....
ความวิเวกวังเวงทำให้ผมรู้สึกหวาดผวา... เจ้าแมวสีดำขลับกำลังนั่งคดคู่อยู่ใต้ต้นไม้สูงอยู่ที่เดิมดวงตากลมสุกใสกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณด้วยความหวาดระแวง
ทั้งๆที่เมื่อวานยังผ่านมาได้แท้ๆแต่วันนี้มันแตกต่างจากเมื่อวานเมื่อผมไม่ได้นั่งร้องไห้
มันทำให้ผมรู้ว่าพอตกกลางคืนที่นี่จะมีเสียงที่น่ากลัวดังกรอบแกรบแว่วๆมาใกล้ตัวอยู่ตลอดเลยล่ะ...
"จื่อเทา
เมี้ยวๆๆๆ จื่อเทา" ได้ยินเสียงแว่วของคนที่คุ้นเคยทำให้ผมหู่ผึ่งด้วยอาการดีใจเสียงเรียกที่ดูกังวลกำลังร้องเรียกหาผมจากข้างนอกนั่น
ผมรีบลุกขึ้นและฉีกยิ้มด้วยความดีใจ อี้ฟานมารับผมแล้ว!
"อี้ฟาน พอเถอะกลับบ้านดีกว่านี่มันก็ดึกมากแล้วนะ"
"ไม่
อี้ฟานจะหาจื่อเทาให้เจอก่อน จื่อเทาต้องคิดว่าอี้ฟานโกรธแน่ๆ"
"เฮ้อ! อะไรกันอี้ฟานยังไงจื่อเทาก็เป็นแมวนะ
แมวย่อมมีสันชาติญาณของมันไม่มีแมวตัวไหนหรอกที่จะไม่กลับบ้านเพราะความหิว"
"นี่มันก็สองวันแล้วนะที่จื่อเทาไม่ได้กินอะไรน่ะ!"
"ถ้างั้นก็เลือกเอาระหว่างแมวกับคนที่ให้ได้ทุกอย่างน่ะอี้ฟาน!"
"อี้ชิงเดี๋ยว!"
ผมมองชายหนุ่มทั้งสองคนที่วิ่งออกไปจากบริเวณ
ไม่ทันที่ผมจะก้าวพ้นออกมาจากพุ่มหญ้าขาที่กำลังจะก้าวออกไปชักกลับมาในทันทีทอดมองแผ่นหลังของอี้ฟานที่วิ่งตามคนรักของเขาไปด้วยความเจ็บปวด...
สุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นย่อมต้องสำคัญกว่าแมวจรจัดอย่างผม...
"อี้ฟานนายควรกินอะไรบ้างนะตั้งแต่จื่อเทาหายไปนายก็ไม่ได้กินอะไรเลย"
ผมเงยหน้ามองคนรักของผมที่แสดงสีหน้าเป็นห่วง...
บอกตามตรงผมไม่อยากกินอะไรเลยตั้งแต่แมวที่รักของผมหายไป
"ฉันไม่หิว"
ตอบปฏิเสธพลางปัดมือของอี้ชิงออกจากไหล่ที่กำลังกอบกุม
สีหน้าของความไม่พอใจฉายแววออกมาจนผู้รู้สึกได้
ถึงผมจะรู้ว่าหากทำแบบนี้คนรักผมจะโกรธแต่ผมกลับควบคุมตัวเองไม่ได้ยิ่งรู้ตัวว่าไม่อาจหาจื่อเทาพบใจผมมันก็ยิ่งร้อนลุ่มเหมือนไฟเผา
ได้ยินเสียงถอนลมหายใจเฮือกของคนข้างๆผมมองตามแผ่นหลังที่เก็บของๆเขาตรียมออกไปจากห้องของผม
"ฉันเบื่อนายจริงๆเลยอี้ฟานตั้งแต่มีเจ้าแมวนั่นเข้ามา
นายก็เอาแต่สนใจมันมากกว่าฉัน"
"อย่าเรียกจื่อเทาว่ามันนะ"
"ก็แล้วทำไมจะเรียกไม่ได้มันก็แค่สัตว์เลี้ยง"
"แต่จื่อเทาไม่ใช่สัตว์เลี้ยงจื่อเทาคือครอบครัวของฉัน!"
"เหอะ! ถึงยังไงแมวก็เป็นแมวตายเร็วกว่ามนุษย์เป็นสิบเท่า
พูดตามตรงนะอี้ฟานฉันจะทักท้วงนายตั้งแต่ตอนที่นายเอาแมวในลังข้างถนนนั่นมาเลี้ยงอยู่แล้วนายคงทำใจไม่ได้หรอกถ้าเกิดแมวที่นายรักตายไปต่อหน้าต่อตา
ฉันว่านะป่านนี้คงโดนรถชนตายไปแล้วล่ะ!"
เพี๊ยะ!
"อี้ฟานนายตบฉัน!"
"เราเลิกกันเถอะอี้ชิง"
ผมทอดมองอี้ชิงดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจนผมใจสั่นร่างบางเบะปากที่สั่นเทามองผมด้วยความโกรธก่อนจะหันหลังออกไปจากห้องนอนของผมโดยที่ไม่หันกลับมามองอีกเลย...
จบแล้วมันจบแล้วผม...
ผมไม่เหลือใครแล้วล่ะ
หันไปมองที่นอนที่ว่างเปล่าของเจ้าลูกแมวน้อย
ดวงตาสีดำขลับคอยจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลาในยามที่ผมคุยด้วยเจ้าแมวจะร้องเมี้ยวๆราวกับว่าจื่อเทากำลังตอบกลับ
มันทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา จื่อเทาคือแมวที่วิเศษผมยอมรับเลยว่าดวงตาสุกใสดวงนั้นทำให้ผมมีความสุขมากเสียกว่าอี้ชิงที่ให้ได้เพียงแค่ร่างกาย...
ผมหันมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งตอนนี้ฝนกำลังโปรยปรายเป็นปอยฝนบางๆ
แต่นั่นกลับทำให้ผมร้อนรนมากกว่าเดิมและต้องรีบลุกขึ้นไปหยิบร่มเดินออกไปจากห้อง
เพื่อตามหาจื่อเทาซึ่งป่านนี้คงจะต้องนอนหนาวสั่นอยู่ที่ไหนซักแห่งแน่ๆ...
ฝนตกแล้ว
และผมก็หิวมากด้วยเสียงร้องโครกครากของท้องทำให้ผมรู้สึกปวดจนทนไม่ไหวรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะหมดแรงและความเย็นความเปียกชื้นก็กำลังทำให้ผมหนาวสั่นเสียงฟ้าร้องที่ดูน่ากลัวนั่นทำให้ผมแทบเป็นบ้า
ทำได้แค่เพียงหมอบลงและยกมือปิดหูเอาไว้เท่านั้น
"มานี่สิเจ้าโง่!"
ผมได้ยินเสียงของลู่หานที่เรียกแว่วมา
ผมจึงวิ่งโผล่ออกไปดูทางด้านนอกจึงเห็นแสงสีขาวของดวงตาคู่สวยกำลังสะท้อนแสงมองออกมาจากท่อตรงสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก
เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าทำให้ผมต้องหมอบลง
"วิ่งมาเร็วๆสิเดี๋ยวก็เปียกมากกว่านี้"
เสียงเรียกที่เรียกอย่างไม่สบอารมณ์ตะโกนเรียกผมอีกครั้งผมจึงตัดสินใจวิ่งไปทางลู่หานอย่างไม่คิดชีวิต อา...
ผมนึกว่าผมจะตายแล้วซะอีก
"เอานี่"
ผมมองปลาแห้งตัวโตตาเป็นประกายเมื่อเจ้าแมวสีขาวคาบมาส่งให้ผมความหิวทำให้ผมไม่ลังเลเลยว่าจะไม่กินมัน
ก้มลงเล็มปลาตัวนั้นอย่างเอร็ดอร่อย
ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้เงยหน้ามองลู่หานอย่างไม่ไว้ใจนัก
"กินไปขนาดนี้แล้วแกยังจะระแวงฉันอีกหรอ"
"เปล่าซักหน่อย"
ผมเถียงกลับก่อนจะก้มลงกินปลาอีกครั้งความหิวทำให้ผมไม่อาจหยุดตัวเองได้จนกระทั้งผมซัดมันจนไม่มีเหลือ
ลิ้นสากเลียไปตากกลีบปากที่มีเนื้อปลาติดอยู่เล็กน้อยความอิ่มทำให้ผมอารมณ์ดีจนยิ้มตาหยี
"ตัวแค่นี้ริอาจหนีออกจากบ้านแย่จริงๆเลยนะ" ผมชะงักเล็กน้อยเงยหน้ามองแมวสีขาวที่นั่งทอดมองออกไปข้างนอกท่อนั่น
หรือว่าเจ้าแมวจรจัดนี่จะรู้แล้ว
"นายรู้ได้ไง"
"หึ! ฉันเร่ร่อนมาตั้งปีนะ
อีกอย่างฉันเห็นเจ้านายแกตามหาแก"
"จื่อเทามีชื่อนะทำไมต้องเรียกแกด้วย"
แล้วผมก็โดนเจ้าแมวนี่กดคอจนติดกับพื้นทำให้ผมต้องรีบดึงมือของลู่หานออกพร้อมๆกับตะกายตัวลุกขึ้นนั่งมองลู่หานอย่างเอาเรื่อง
"แล้วทำไมลู่หานไม่หาเจ้านายใหม่ล่ะ"
ผมถามด้วยน้ำเสียงเคืองๆพลางปัดฝุ่นที่อยู่ตามเนื้อตัวออกไป
เห็นแววตาที่ดูเศร้าของลู่หานอยู่ครู่หนึ่งแต่เมื่อผมมองเขาตรงๆกลับเห็นแต่ความเย่อหยิ่งอยู่ในตัว
"แมวที่โตอย่างฉันใครจะสนใจมนุษย์พอเลี้ยงไปนานๆพอไม่น่ารักก็ทิ้งไว้อย่างไม่ใยดีประสบการณ์ที่เจ็บปวดนั่นแค่ครั้งเดียวก็เกินทน"
ผมทอดมองลู่หานที่นั่งมองออกไปข้างนอกซึ่งฝนกำลังโปรยปรายลงมาบางๆมากแล้ว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้มันพาลให้ผมรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน
อารมณ์ของลู่หานในตอนนี้ผมเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง
"แล้วแกล่ะทำไมถึงหนีมา"
ลู่หานหันมาถามผมบ้างซึ่งคำถามมันก็จี้ใจผมมากจริงๆ
ดวงตากลมสวยหันมามองผมตาแป๋วเพื่อรับฟังเรื่องของผมบ้างทำให้ผมไม่อาจจะปฏิเสธที่จะพูดได้เลย
"จื่อเทาเผลอทำร้ายอี้ฟานเข้าน่ะ" พอตอบกลับไปกลับได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นจมูกของเจ้าแมวที่อยู่ตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกฉุนที่ถูกหัวเราะเยาะและมองลู่หานอย่างเอาเรื่อง
"มันน่าขำตรงไหน" พูดด้วยน้ำเสียงที่กระเง้ากระงอด
"เปล๊า! ก็แค่มันไร้สาระ"
ผมยิ่งแสดงสีหน้าง้ำงอยิ่งกว่าเดิมแต่เจ้าแมวตัวนี้กลับหัวเราะใส่ผม
"เอาน่าไหนๆก็โดนทิ้งแล้วเอาแบบนี้ก็แล้วกันเดี๋ยวฉันจะพานายเรียนรู้โลกกว้างเอง"
วงแขนของลู่หานโอบรอบคอผมพลางตบไหล่ปักๆ
ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมคู่นั้นซึ่งกำลังฉายแววสุกใสก่อนจะเผยอยิ้มออกมาพลางพยักหน้าหงึกหงักตอบ
ลู่หานล้มตัวลงนอนแผ่เอนหลังพิงเข้ากับท่อทำให้ผมนึกถึงตาแก่พุงพลุ้ยของพวกมนุษย์ที่อยู่ในหนังแต่ทว่าลู่หานนั้นหุ่นดีมากจนผมเองก็เคยอิจฉาจ้องแมวสีขาวที่เคยเป็นคู่อริอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอนหลังนอนอย่างลู่หานบ้าง
"ว่าแต่ลู่หานเล่าให้ฟังหน่อยเรื่องของลู่หานน่ะ"
ผมถามด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาสีเงินหันมามองผมพลางแสยะยิ้ม
"ได้สิ
รับรองถ้านายฟังแล้วต้องอยากออกไปวิ่งเล่นจนไม่อยากกลับไปหาเจ้ามนุษย์นั่นเลยล่ะ!"
ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มด้วยความตื่นเต้นดวงตาเบิกตาโพลงตั้งหน้าตั้งตาฟังเรื่องวีรกรรมของลู่หานที่ประสบพบมาด้วยความรู้สึกสนุก
และใช้เวลาเกือบทั้งคืนที่เรานั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดต่อกัน...
สี่วันแล้วที่จื่อเทาหายไป...
กระดาษสีขาวรูปลูกแมวตัวน้อยถูกแปะไปทั่วบริเวณผมหวังว่าจื่อเทาอาจจะยังอยู่ในละแวกนี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหนทางสุดท้ายที่ผมจะทำได้แต่ก็ไม่มีวันลดละเพื่อที่จะตามหา
แน่นอนว่าผมไม่ได้เข้าบริษัทมาแล้วสี่วันและให้เลขาของผมจัดการงานให้ตลอดรวมไปถึงอี้ชิงที่ผมไม่ได้ติดต่อหาเขาเลยหลังจากในวันนั้นในหัวของผมมีแต่จื่อเทาเต็มไปหมด
"คุณป้าถ้าเจอก็ช่วยผมหน่อยนะครับ"
ผมอ้อนวอนแม่ค้าและเพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมาเพื่อขอร้องให้เขาช่วยผมพลางแจกกระดาษสีขาวรูปลูกแมวหน้าตาน่ารักให้ พวกเขาเพียงแค่รับและก็เดินจากไปเท่านั้นทำให้ผมต้องถอนลมหายใจเฮือกๆออกมาด้วยความเหนื่อยกายเหนื่อยใจไม่รู้ว่าจื่อเทาจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้และผมพาวนาว่า
ขอให้ลูกแมวที่ผมรักปลอดภัย...
"ยังคิดถึงเจ้านายอยู่อีกหรอจื่อเทา"
ผมหันไปมองลู่หานที่กระโดดผลุงขึ้นมาบนท่อซึ่งผมกำลังนั่งแหงนมองดูดาวอยู่ก่อนจะหันกลับไปยังท้องฟ้าดังเดิม
"เฮ้อ! ฉันเข้าใจว่าการตัดใจมันยากแต่ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เห็นจะตามหานายแล้วนายควรร่าเริงขึ้นนะไม่ใช่แค่ร่าเริงแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น" ผมพยักหน้าตอบลู่หานส่งๆเมื่อคำบ่นทำให้ผมรู้สึกรำคาญ
ถึงแม้ว่ากลางวันลู่หานจะทำให้ผมคลายความเศร้าได้
แต่พอตกกลางคืนในยามที่ผมแหงนมองดูดาวผมกลับคิดถึงแต่ใบหน้าของคริสลอยวนอยู่ในหัวของผม
"เอางี้ดีกว่า
ฉันเห็นพวกมนุษย์จัดเทศกาลอะไรซักอย่างทางฝั่งตรงข้ามนั่นล่ะ
น่าสนุกไม่น้อยเลยเราไปดูกันดีกว่าเผื่อจะมีขนมให้กินบ้าง" ผมหันไปมองลู่หานหูผึ่งตาเป็นประกาย
"จริงหรอไปสิไป" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง
"ไปก็ลงมาสิจะรออะไร!" ผมทำท่าจะลงไปยังข้างล่างตามลู่หานเพื่อที่จะไปเล่นอะไรที่มันสนุกตามคำชักชวนของลู่หานแต่ทว่าสายตาของผมกลับหันสายตาไปบนท้องฟ้าและพบเข้ากับดาวตก
"ลุ่หานดูสิดาวตกล่ะ!"
ผมชี้ให้ลู่หานดูตาเป็นประกาย
"แล้วไง
ก็เเค่ดวงเดียวน่าแปลกตรงไหน"
ผมเบ้ปากให้กับลู่หานก่อนจะพนมมืออธิฐานต่อดวงดาวก่อนที่มันหายลับตาไป
ผมขอให้อี้ฟานมีความสุขได้อยู่กับคนที่รักไปตลอดกาล
แล้วก็... ขอให้ลู่หานได้พบกับคนที่รักเขาจริงๆ
"เจ้าบ้าเร็วๆสิเดี๋ยวรถจะเยอะแล้วข้ามลำบากนะ" ผมลดมือลง
เมื่อลืมตาขึ้นดาวดวงนั้นก็หายไปเสียแล้วหันไปมองลู่หานที่กวักมือเรียกผมให้ลงตามเขาไปโดยเร็ว...
ผมเดินทอดน่องไปตามท้องถนนที่มีแสงไฟหลากสี
ฝั่งตรงข้ามมีงานเทศกาลเล็กๆดูน่าสนใจแต่ผมกลับไม่มีอารมณ์ที่จะเดินไปดูในตอนนี้ดวงตาสอดส่ายมองหาเจ้าลูกแมวตัวน้อยของผมด้วยสภาพที่เหนื่อยเพราะการพักผ่อนน้อยของผม
"โอยแย่จริงๆเลยมีคนขับรถชนแมวล่ะทำให้เกิดอุบัติเหตุดูท่าจะเจ็บหนักทั้งคนทั้งแมวเลยล่ะ"
"นั่นสิสงสารทั้งคนทั้งแมวนั่นแหละ
แต่ที่เห็นจะน่าสงสารที่สุดคงเป็นลูกแมวที่นั่งร้องเพราะเพื่อนมันถูกชนน่ะนะ"
"เดี๋ยวครับเมื่อกี้พวกคุณพูดว่ามีแมวถูกรถชนหรอ"
ผมรีบทักวัยรุ่นทั้งสองคนที่เดินสวนทางกับผม
พวกเธอหันมาพลางทำสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าตอบ
"ใช่แล้วล่ะค่ะ
น่าสงสารเจ้าแมวสองตัวนั้น"
"ช่วยบอกผมได้ไหมครับว่ารถชนกันที่ไหน"
ผมรีบวิ่งไปที่จุดเกิดเหตุในทันทีซึ่งมีคนมุงดูอยู่หลายคนอยู่
ณ จุดนั้น คนบาดเจ็บถูกหามขึ้นรถพยาบาลแต่ทว่าคนที่มุงดูน่าจะเป็นเสียงของลูกแมวที่ร้องแง้วๆดูเจ็บปวดนี่มากกว่า
"จื่อเทา!"
แทบไม่ต้องมองให้ถ้วนถี่ว่าใช่ลูกแมวผมหรือไม่เพียงแค่เห็นผมก็จำได้ในทันที
รีบวิ่งเข้าไปกอดร่างของลูกแมวที่ผมรักด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง
และก้มลงมองเจ้าแมวสีขาวซึ่งนอนแน่นิ่งหายใจรวยริน...
แง.... อี้ฟานลู่หานล่ะ
ลู่หานถูกรถชนฮือๆๆๆ
ผมมองลู่หานที่นอนจมกองเลือดอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกผิด
ถ้าลู่หานไม่ช่วยผมล่ะก็ผมคงตายไปแล้วแต่นั่นก็ทำให้เจ้าแมวสีขาวตัวนี้โดนรถชนแทนผม
"ไม่เป็นไรนะเด็กดีเดี๋ยวอี้ฟานจะพาเรากลับบ้าน"
จื่อเทาไม่กลับจื่อเทาจะดูลู่หาน
ลู่หานไม่เป็นอะไรนะ...
ผมร้องไห้ออกมาไม่ขาดสายสบตาลู่หานที่นอนมองผมนิ่ง
ปากเล็กๆนั่นกำลังขยับขึ้นลงยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากเหลือเกิน
"เจ้าโง่...
รีบกลับบ้านได้แล้ว" ทันทีที่พูดจบลู่หานก็หลับตาลงแน่นิ่งไปในทันที
ไหล่แกร่งของอี้ฟานที่กำลังโอบอุ้มผมอยู่เป็นสิ่งเดียวที่ผมจะใช้มันเป็นพักพิงและร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ
เพราะผม เพราะผม เพราะผม! ทำให้ลู่หานต้องตาย...
จื่อเทาของผมกำลังเศร้า...
ผ้าขนหนูผืนหนาเช็ดไปตามกลุ่มขนนิ่มของเจ้าลูกแมวน้อยหลังจากที่ผมพาเขาเข้าไปอาบน้ำ
ท่าทางที่นิ่งสงบนั่นทำให้ผมรู้สึกแย่ก่อนจะก้มใบหน้าสบตาของจื่อเทาที่หันสายตาหนี
ลมหายใจอุ่นๆทอดยาวออกมาด้วยความลำบากใจผมไม่อยากเห็นจื่อเทาเป็นแบบนี้เลยให้ตายสิ
ผมแหงนมองนาฬิกาซึ่งตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืนแล้วและหันกลับมายิ้มให้กับจื่อเทาที่หงอยเหงา
"แมวตัวนั้นต้องปลอดภัย
ไม่เอาน่าจื่อเทาเพื่อนของจื่อเทาถึงมือหมอแล้ว"
ลูกแมวที่น่ารักเงยหน้าขึ้นมองผมเห็นน้ำปริ่มอยู่ที่ขนตาทำให้ผมรู้สึกทุกข์ใจ
จื่อเทาคือแมวที่แตกต่างไปจากแมวบ้านธรรมดาลูกแมวตัวนี้ทำให้ผมคิดว่าจื่อเทาคือมนุษย์จริงๆ
"นอนดีกว่านะ"
ผมระบายยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนก่อนจะประทับจูบไปบนหน้าผากนิ่ม
จื่อเทาหลับตาพลางใช้หัวของเขาคลอเคลียอยู่ที่ใบหน้าของผมความคิดถึงทำให้เราต่างก็โหยหาไม่ต่างกัน
ผมล้มตัวลงนอนเอื้อมวงแขนอุ้มจื่อเทาเข้ามากอดไว้
ยกยิ้มให้กับลูกแมวที่เงยหน้ามองตาปริบๆ
ถ้าจื่อเทาเป็นคนผมคงจะรู้สึกดีใจมากๆเลยล่ะ
และผมเองก็กำลังจะบ้าอยู่เหมือนกันเมื่อผมกำลังอยากให้แมวกลายเป็นคนจริงๆ...
เสียงนกร้องที่น่าหนวกหูทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจก่อนบิดกายไปมาอย่างเกียจคร้านยกมือหลวมๆขึ้นขยี้ตาไปมาพลางแลบลิ้นจะเลียมือเพื่อล้างหน้าแต่ทว่ามือของผมกลับกลายเป็นมือของมนุษย์จนต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
นี่มันอะไรกันเนี่ย! "อะ
"
ผมรีบเอามือปิดปากเมื่อเสียงที่เปล่งออกมามันฟังดูเพี้ยนผิดหูก่อนจะสำรวจตัวของผมเองซึ่งไร้เสื้อผ้าใดๆปกปิด
นี่จื่อเทากำลังฝันไปจริงๆใช่ไหม!
"อืมจื่อเทาอย่าดิ้นได้ไหมพ่อยังอยากนอนอยู่นะ"
อี้ฟานขยับตัวไปมาทำให้ผมรู้สึกตกใจไม่น้อยวงแขนแกร่งควานหาตัวผมเหมือนอย่างที่ชอบทำผมจึงล้มตัวลงนอนไปที่แขนแกร่ง
วงแขนกอดกระชับตัวผมแน่นพลางกดจมูกสูดกลิ่นอายจากกลุ่มผมนิ่มโดยที่ไม่ลืมตามอง
ดวงตากลมสุกใสจ้องวงหน้าของคนที่กำลังหลับอยู่ด้วยความตื่นเต้นในใจ
หรือสิ่งที่จื่อเทากำลังเป็นอยู่นี่คือความฝันกันล่ะแต่ความฝันของเจ้าลูกแมวตัวน้อยช่างเป็นฝันที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
นิ้วเรียวยกขึ้นแตะสัมผัสไปที่จมูกของอี้ฟาน
ราวกับตั้งใจแหย่ให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาเสียที เพราะจื่อเทากำลังหิวจนท้องร้องครวญครางออกมาแล้ว
"จื่อเทา... อย่าแกล้งน่า" น้ำเสียงทุ้มบ่นงึมงำในลำคอทำให้ผมถึงกับกลั้นขำมือหนาคว้ามือของผมไว้ด้วยความรำคาญ สีหน้าที่หลับสบายกำลังขมวดคิ้วยุ่งจนผูกปมพลางคลำมาที่มือเรียวราวกับสำรวจก่อนจะลืมตาขึ้นพรึบ
"เฮ้ย!" ความตกใจที่เห็นคนแปลกหน้าทำให้อี้ฟานถึงกับลุกพรวดพลางทำสีหนาตกใจที่เห็นผม
"อี้ฟานนนน จื่อเทาหิวแล้ว" น้ำเสียงออดอ้อนพูดพลางคลานเข้าไปหา ร่างสูงแสดงสีหน้าตื่นตกใจอย่างเปิดเผย ผมใช้หัวถูกไปที่หน้าอกของอี้ฟานไปมาอย่างที่ชอบทำและช้อนดวงตาทำคิ้วตกยกยิ้มออกมาบางๆ เพื่อต้องการเห็นรอยยิ้มของเจ้านายแต่ทว่าอี้ฟานกลับมองผมราวกับเห็นผี
"นายเป็นใครละ แล้วจื่อเทา
จื่อเทาหายไปไหน"
"อ่ะ!"
ผมถูกผลักซะล้มปุกอยู่บนที่นอนนุ่มคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจนักอี้ฟานรีบลุกขึ้นพรวดและถอยห่างผมที่นั่งคุกเข่าอยู่
"แล้วทำไมถึงเปลือยแบบนี้!"
ผมเลิกคิ้วและยกแขนสำรวจตัวเอง
มันแปลกตรงไหนหรอปกติผมก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้วนี่
ก่อนจะหันไปทางอี้ฟานและยิ้มให้จนตาหยีพูดย้ำในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา
"จื่อเทาหิว" แล้วก็เอียงคอทำท่าน่ารักให้อี้ฟานเอ็นดูก่อนจะทำคิ้วตกเมื่อเจ้านายยังแสดงอาการตกใจอยู่
"จื่อเทางั้นหรอ"
ผมพยักหน้าอีกครั้งพลางยิ้ม
ก่อนจะขยับตัวมองพื้นห้องในขนะที่ผมกำลังห้อยขาใช้ฝ่าเท้าของมนุษย์แตะไปที่พื้น
ความเย็นทำให้ผมยกยิ้มก่อนที่จะลุกพรวดขึ้นแต่ทว่าความอ่อนปวกเปียกของผมทำให้ผมเซไปข้างหน้าเกือบหน้าคะมำแต่ก็ได้รับอ้อมแขนแกร่งช่วยพยุงไว้
ผมช้อนดวงตาขึ้นพลางยกยิ้มให้อี้ฟานจนตาหยี
"จื่อเทาหิว" พูดย้ำอีกครั้งตามนิสัย แต่อี้ฟานกลับเบิกตาโพลงแล้วใบหน้าก็แดงจัดนี่อี้ฟานสบายหรอ ต้องใช่แน่ๆเวลาที่มนุษย์ไม่สบายเขาทำยังไงกันนะ...
ใช่แล้วล่ะยกมือขึ้นจับหน้าผากเพื่อวัดไข้...
"จะ จื่อเทา"
น้ำเสียงสั่นเอ่ยเรียกผมที่กำลังมองอี้ฟานด้วยความเป็นห่วงพลางจับหน้าผากของอี้ฟานเอาไว้...
ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลยนี่อี้ฟานก็ตัวอุ่นอยู่เหมือนเดิมงืม...
ดีใจจังจื่อเทาตัวเกือบจะเท่าอี้ฟานแล้วล่ะ!
ผมรับแรงน้ำหนักของร่างบางที่กระโดดกอดผมเอาไว้แน่นด้วยหัวใจที่เต้นแรงและรัว
รู้สึกเหมือนกับว่าผมกำลังฝันไป
เมื่อเด็กคนนี้เรียกตัวเองว่าจื่อเทาดวงตาสีดำขลับคู่สวยกำลังมองผมด้วยแววตาที่ออดอ้อนความรู้สึกของผมมันบอกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้โกหกมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น
ร่างกายที่เปล่าเปลือยสัดส่วนที่ได้รูปซึ่งผมมักจะมองวนไปที่หัวนมสีชมพูนั่นอยู่บ่อยครั้ง
ทำให้ผมเกือบตบะแตกและรู้สึกหน้าเห่อร้อนไปถึงใบหู
นี่ผมเป็นอะไรผมกำลังเกิดอารมณ์เพราะลูกแมวที่กลายร่างเป็นผู้ชายร่างสูงนี่น่ะหรอ!
"อี้ฟาน"
น้ำเสียงกระเส่าเรียกพลางคลอเคลียไปตามแผงอกของผมอย่างที่เจ้าลูกแมวนี่ชอบทำถ้าหากนับเดือนของลูกแมวจื่อเทาก็คงจะประมาณอายุ15สินะ
ทันทีที่สบตาของจื่อเทาเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกนั้นแทบจะแตก กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูที่ผมอาบให้จื่อเทาเมื่อคืนนี้ลอยเตะจมูกยิ่งทำให้ผมอดใจไม่ไหว...
"อือ"
จมูกโด่งๆก้มลงคลอเคลียไปตามซอกคอของเด็กหนุ่ม
ยิ่งได้ยินเสียงครางของจื่อเทายิ่งทำให้ผมรู้สึกชอบและอยากทำมากกว่านี้ค่อยๆดันร่างบางไปบนที่นอนและโน้มตัวลงทาบทับไว้
แววตาที่ใสซื่อทำให้ผมรู้สึกนึกขำแต่ทว่า... จื่อเทาดูยั่วยวนมากจริงๆ
"อี้ฟาน... จื่อเทา รัก"
ผมเบิกตาขึ้นเมื่อได้ฟังคำที่เอ่ยออกมาแปร่งๆเสียงงุ้งงิ้งอยู่ในลำคอของจื่อเทา
ใบหน้าคมหวานหันหลบสายตาของผมด้วยความเขินเเละเริ่มแดงระเรื่อออกมาอย่าเปิดเผย
อดไม่ได้ที่ผมจะยกยิ้มจนแก้มแทบปริ
จมูกกดไปที่พวงแก้มนิ่มก่อนจะพูดกระซิบที่ข้างหูของเจ้าลูกแมวจอมดื้อขี้อ้อนคนนี้
"อี้ฟานก็รักจื่อเทามากนะ"
เพียงแค่พูดไปแค่นั้นเจ้าแมวแสนดื้อก็อายม้วนจนน่ารักมือเรียวจับกระชับเสื้อของผมด้วยความเขินอาย
"แล้วจื่อเทาพอจะรู้ไหมว่าคนที่เขารักกันต้องทำยังไง"
จื่อเทาหันมาสบตาของผมแววตาของจื่อเทาไหวระริกพลางยกยิ้มออกมาจนตาหยีก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อหูเท่าไรนักว่าลูกแมวจะคิดแบบนี้
"รู้สิก็ทำเหมือนกับที่อี้ฟานทำกับอี้ชิงไง" เป็นคำตอบของจื่อเทาทำให้ผมรู้สึกอายไม่น้อยจนต้องยกมือหนาขึ้นปิดหน้าก่อนจะลูบลงเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่น
"อี้ฟาน"
น้ำเสียงหวานเอ่ยเรียกย้ำยิ่งทำให้สติของผมนั้นเตลิดเปิดเปิงเป็นเพียงแค่แมวธรรมดายังทำให้ผมหลงรักได้แต่นี่จื่อเทาเป็นคน แล้วคนอย่างผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากด้วยสิ !
สบดวงตาคมพลางยกยิ้มกริ่มใบหน้าที่ดูซื่อๆนั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวก่อนจะก้มลงบดเบียดริมฝีปากรูปกระจับชวนมองของจื่อเทา
วงแขนของลูกแมว...
ไม่สิวงแขนของเด็กหนุ่มกำลังโอบรอบคอผมอย่างช้าๆและหลับตาพริ้มทำให้เห็นแพขนตาที่น่าจับตามอง
สัมผัสที่นุ่มลิ้นราวกับปุยนุ่นทำให้ผมไม่อาจควบคุมอารมณ์ภายในตัวได้
มือหนาสัมผัสไปตามผิวเนียนลื่นไม่ต่างกับขนแมวที่ผมสัมผัสอยู่ทุกวันและคุ้นเคยกับมันดี
"อืม" เสียงครางหวานในลำคอยิ่งทำให้ความอยากของผมเพิ่มขึ้นทวี ผละริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากหวานก่อนจะก้มลงชอนไชไปที่ลำคอระหงส์พลางลูบไล้ผิวกายของจื่อเทาเพื่อสำรวจ ร่างกายที่ผมกำลังลูบคลำตอบสนองเป็นอย่างดี สัมผัสได้ถึงแก่นกายที่แข็งขืน ผมยิ่มกริ่มด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์ก่อนจะเค้นคลึงมันผะเเผ่วแต่ก็เรียกเสียงหวานแหบพร่าให้ร้องครางออกมาชวนน่าฟัง
"งืม อี้ฟาน จะ จื่อเทารู้สึกแปลกๆ" ผมโน้มใบหน้าบดเบียดกลีบปากรูปกระจับอีกครั้งก่อนจะผละออกมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่น่าเกะกะของตัวเองออก
เข้าทาบทับตัวของจื่อเทาอีกครั้งหนึ่ง
ยิ่งผิวกายแนบเนื้อนุ่มนิ่มยิ่งทำให้สติของผมแทบกระเจิงและผมเองก็รู้ว่าจื่อเทาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
มือเรียวของเด็กหนุ่มสัมผัสมาที่ใบหน้าและโอบอุ้มพลางช้อนดวงตาขึ้นมองราวกับยั่วยวนก่อนจะโน้มใบหน้าขึ้นจูบกับผมผะแผ่ว
"หึ! เจ้าเด็กขี้อ้อน"
มือหนาตะปบไปที่เอวคอดได้รูปตัววีร่างกายของจื่อเทามันช่างน่าหลงไหลจนไม่อาจห้ามใจอยู่
เจ้าแมวแสนขี้อ้อนมองผมตาปลือและหยาดเยิ้มค่อยๆยกยิ้มยั่วยวนพลางยกขาขึ้นเกี่ยวเอวของผมไว้
"อี้ฟานมาสิ"
เฮือก!!!
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเจอลูกยั่วที่ไม่รู้ว่าจื่อเทาเอามาจากไหน
ก่อนจะตัดสินใจสั่งสอนเจ้าแมวตัวน้อยนี่ให้รู้สำนึกว่าการยั่วมนุษย์แบบนี้มันจะมีผลยังไง! มือหนาตะปบเอวหมับก่อนจะแทรกกายที่แข็งขืนสวนเข้าไปในเส้นทางที่คับแคบ
ใบหน้าหวานนิ่วหน้าความปั่นป่วนกรงเล็บจิกเข้ามาที่ไหล่แกร่งเพื่อระบายอารมณ์
"อี้ฟานจื่อเทาเจ็บ" ผมยิ้มกริ่มก่อนจะโน้มใบหน้าจูบซับน้ำตาที่ปริ่มอยู่
กระซิบเสียงทุ้มนุ่มหูเพื่อปลอบขวัญ
"เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ"
หลังจากนั้นก็บรรเลงรักอย่างโชกโชน
เสียงครางกระเส่าหวานแหวยิ่งเพิ่มความกระสันภายในเป็นอย่างดี
ผมมองวงหน้าของคนที่อยู่ในห้วงอารมณ์ไม่วางตา ดวงตาเรียวกำลังเปล่าปรือด้วยอารมณ์วาบหวิว
กลีบปากบางขบเม้มจนแดงระเรื่อและฉ่ำน้ำ กลุ่มผมสีดำขลับกำลังชื้นเหงื่อแลดูชวนมอง
แรงกระเพื่อมของแผ่นอกหอบหายใจไปกับจังหวะรักที่ผมกำลังปรนเปรอเขา
ก่อนที่ทุกๆอย่างจะถึงจุดขีดสุดของมัน....
"อ๊า!!"
ผมมองจื่อเทาที่หลับอยู่เคียงข้างด้วยความรู้สึกที่เอ็นดูก่อนจุมพิตไปที่กลุ่มผมนิ่มสีดำขลับ
ความรู้สึกอิ่มเอมทำให้ผมรู้สึกไม่อยากละจากเจ้าแมวน้อยขี้เซานี่เลยให้ตายสิ!
"จื่อเทาหิวไม่ใช่หรอ"
"อืม" น้ำเสียงหวานครางในลำคอตอบและค่อยๆปลือตามองผมที่ถาม
ดวงตาเรียวคมสวยช้อนขึ้นมองพลางระบายยิ้มให้ผมจนตาหยีก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักตอบ
ผมจึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งทอดมองวงหน้าหวานเกลี่ยไรผมนิ่มของจื่อเทาอย่างเพลินมือ
"กินอะไรกันดีล่ะ"
ผมถามเด็กหนุ่มที่ขยี้ตาไปมาแลดูน่ารักบอกตามตรงผมอยากจะจับกดจื่อเทาอีกครั้งถ้าไม่ห่วงว่าแมวตัวนี้จะหิวจนปวดท้องเสียก่อน...
"จื่อเทาอยากกินปลา" ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบ
และลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อหาอะไรให้ลูกแมวขี้อ้อนคนนี้ทานเป็นมื้อเช้า
จื่อเทาลุกขึ้นตามผมบ้างก่อนจะกระโดดตัวผลุงไปที่จานข้าวของเขาและนั่งรออยู่ตรงนั้นเหมือนอย่างที่เคยๆทำ
ทำให้ผมถึงกับถอนหายใจเฮือกและยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
"ไม่ใช่จื่อเทาเป็นคนแล้ว
ไม่ใช้แล้วล่ะจานใบนี้"
ผมหยิบจานที่อยู่ตรงหน้าออกมาทำให้เด็กหนุ่มย่นหน้าผากพลางเบะปากแลดูน่ารัก
"อี้ฟาน ให้จื่อเทานี่"
พร้อมๆด้วยดวงตาเรียวที่มองผมตาปริบๆ...
"จานนี้เลิกใช้แล้วมาใช้ของคนเข้าใจไหม"
แล้วจื่อเทาก็ส่ายหน้าไปมาอีกครั้งทำให้ผมรู้สึกลำบากใจไม่น้อย
ก้มลงมองแผ่นอกที่เปล่าเปลือยของจื่อเทาซึ่งพาลให้ผมจะตบะแตกอีกครั้งเสียให้ได้
เดินฉับๆไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืดของผมสวมให้จื่อเทาแต่ดูท่ามันจะใหญ่จนเกินไปทำให้ดูเหมือนเด็กหนุ่มกำลังใส่กระโปรง...
ฮึ่ม... อดใจอี้ฟาน
ผมวางจานข้าวไว้ตรงหน้าจื่อเทาและวางปลานึ่งที่ทำเสร็จมาใหม่ๆเห็นดวงตาที่เป็นประกายของจื่อเทาแล้วทำให้ผมต้องหลุดขำก่อนจะบอกให้เด็กหนุ่มลงมือทานอาหารตรงหน้าเสีย
"กินซะสิจื่อเทา" เด็กหนุ่มพยักหน้ารัวๆก่อนจะก้มหน้าลงไปไปที่ปลาตัวนั้นทำให้ผมตกใจจนต้องเอื้อมมือห้ามไว้แววตาของความฉงนสงสัยช้อนขึ้นมองผมตาปริบๆ
"ไม่ได้เป็นคนแล้วนะจื่อเทา"
ผมตำหนิเสียงดุ แต่พอเห็นดวงตาที่หลูบลงทำให้ผมใจอ่อนและถอนลมหายใจออกมาดังเฮือก
"คนเขาต้องใช้ช้อนใช้ตะเกียบแบบนี้เข้าใจไหม"
ผมทำให้จื่อเทาดูเป็นตัวอย่างและดูท่าเด็กคนนี้จะสนใจไม่น้อยและหยิบตะเกียบขึ้นมาบ้าง
ลองคีบอย่างที่ผมทำแต่ทว่ากลับทำไม่สำเร็จเมื่อข้อมือเรียวนั้นอ่อนปวกเปียก
ผมจึงถอนลมหายใจยกยิ้มออกมาบางๆลุกขึ้นเดินไปซ้อนหลังของจื่อเทาเพื่อสอน
"ทำแบบนี้นี่"
ผมจับนิ้วเรียวขยับขึ้นลงโดยมีสายตาเรียนรู้จับจ้องตลอด
และปล่อยให้เด็กหนุ่มทำบ้างและจื่อเทาก็เรียนรู้ได้ไวจนน่าทึ่ง
คีบเนื้อปลาใส่จานข้าวของตัวเองได้สำเร็จ
ดวงตาเรียวคมช้อนขึ้นมองผมตาเป็นประกายพลางยกยิ้มให้ผมอย่างตื่นเต้น
กลีบปากรูปกระจับนั่นผมกำลงมองไม่วางตาและอยู่ๆจื่อเทาก็เลียมาที่ริมฝีปากผมแผลบ
"จื่อเทาทำอะไร"
ผมถามด้วยความตกใจ
"ขอบคุณอี้ฟาน"
แล้วผมก็เพิ่งฉุกคิดได้ว่าจื่อเทาชอบทำแบบนี้กับผม...
อา...
มันก็ดีอยู่หรอกนะที่จื่อเทาทำแบบนี้แต่ว่าผมคงต้องสอนเจ้าแมวขี้อ้อนคนนี้อีกเยอะเลยสินะ...
ผมรีบกลับบ้านด้วยความเร่งรีบหลังจากที่เคลียร์งานทุกอย่าเสร็จสิ้นด้วยเหตุผลที่ว่ามีลูกแมวขี้อ้อนรออยู่ที่บ้าน
แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะแวะเวียนดูเพื่อนของจื่อเทาตามที่เด็กหนุ่มร้องขอ
คลินิกแมวจึงเป็นที่แรกที่ผมจะแวะ
"อ้าวพี่อี้ฟาน" ผมยิ้มทักเซฮุนน้องชายเพื่อนสนิทที่เดินออกมาจากห้อง
"แมวตัวนั้นเป็นยังไงบ้าง" ผมถามด้วยความอยากรู้
"ก็ดีขึ้นแล้วล่ะพี่
แต่คงต้องให้น้ำเกลืออีกหน่อยดีที่ว่าแค่กระดูกหักไม่มีอวัยวะฉีกขาดช่างเป็นแมวที่อึดมากจริงๆ"
ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกถ้าเกิดเจ้าแมวนั่นตายขึ้นมาล่ะก็ผมคงได้นั่งปลอบเจ้าแมวขี้แยจื่อเทาข้ามวันข้ามคืนแน่ๆ
"ว่าแต่พี่เถอะเลิกกับพี่อี้ชิงแล้วใช่ไหม"
ผมเงยหน้าขึ้นมองพลางพยักหน้าตอบส่งๆ
"ดีแล้วล่ะพี่
รายนั้นคงไม่กลับมาหาพี่แล้วล่ะผมเห็นเขาไปเดินควงกับประธานบริษัทอะไรซักที่นี่แหละเห็นว่าชื่อซูโฮพี่เองก็คงรู้จักนะ"
"ไอ้น้องรักเอ็งพูดอะไรให้มันระวังปากหน่อยเถอะ!"
เสียงของชานยอลตะโกนดังออกมาจากข้างใน
เซฮุนหันกลับไปมองพี่ชายก่อนจะหันมามองผมพลางยักไหล่
"ไม่เป็นไรหรอกถึงยังไงพี่ก็ไม่กลับไปหาคนๆนั้นแล้วล่ะตอนนี้พี่เจอคนที่ใช่แล้ว"
"โอ้โหพี่ไฟแรงนะเนี่ย
เอาน่าหล่อๆอย่างพี่เลือกได้นะ ว่าแต่อย่าลืมพามาโชว์ตัวล่ะ"
เซฮุนตบไหลผมพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ผมจึงยิ้มกลับและปัดมือไอ้เด็กลามปามนี่ออกไป
"ถ้าเจ้าแมวตัวนั้นหายดีเมื่อไรพี่จะพาแฟนพี่มาก็แล้วกัน
ว่าแต่พี่ขอบใจเรามากเลยนะที่รับเลี้ยงแมวตัวนั้น"
"โหยพี่เรื่องแค่นี้
ผมอยู่บ้านคนเดียวก็เหงามีเพื่อนบ้างก็น่าจะดี"
ผมพยักหน้าและเอื้อมมือตบไหล่น้องชายเพื่อนก่อนจะขอตัวกลับบ้านเพื่อกลับไปบอกข่าวดีให้จื่อเทาได้รู้
แต่พอผมขับรถใกล้ถึงบ้านกลับเห็นคนมากมายกำลังมุงดูอะไรบางอย่างพร้อมๆกับตำรวจหน่วยกู้ภัยกำลังมาอออยู่ที่หน้าคอนโดของผมๆจึงลงมาจากรถเพื่อมาถามคนที่อยู่ข้างนอก
"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ"
"จะอะไรซะอีกล่ะมีคนคิดจะฆ่าตัวตายนะสิ
โน่นน่ะเห็นนั่งห้อยขาลงมาจากระเบียงนานแล้ว" ผมเงยหน้ามองไปตามนิ้วที่ป้าคนนี้เขาบอกผม
ทันทีที่ผมเห็นภาพมันทำให้หัวใจของผมแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เมื่อเห็นจื่อเทากำลังนั่งห้อยขาตรงระเบียงหันออกมาข้างนอกตัวตึก
แถมด้วยการแกว่งขาอย่างสบายใจไม่ฟังเสียงที่กำลังตะโกนเตือนว่าให้กลับเข้าไปเลยสักนิด
จื่อเทา!
"จื่อเทา! แฮ่ก
โอย!"
ผมเปิดประตูบานเลื่อนและเรียกเจ้าแมวแสนซนด้วยอาการหอบเหนื่อย
จื่อเทาหันมาทางผมพลางฉีกยิ้มหวานด้วยความดีใจและตั้งท่าจะขยับตัวกลับเข้ามาในบ้านยิ่งเพิ่มความหวาดเสียวให้กับผมเป็นเท่าตัว
"พี่อี้ฟานกลับมาแล้ว"
"หยุดจื่อเทา! อยู่เฉยๆ"
ผมสั่งห้ามจื่อเทาเด็กหนุ่มเคียงคอทำท่าสงสัยเหมือนจะถาม
ผมแต่ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปคว้าตัวของจื่อเทาเอาไว้ในอ้อมกอดและดึงตัวเข้ามาข้างในบ้าน
หัวใจยังรู้สึกเต้นแรงจนแทบจะทะลุ
"จื่อเทาทำแบบนี้ทำไมรู้ไหมว่ามันอันตราย!"
ผมตวาดลั่นด้วยความโกรธและเป็นห่วง
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มค่อยๆหุบยิ้มลงอย่างช้าๆและทำคอตกจนน่าสงสาร
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มค่อยๆหุบยิ้มลงอย่างช้าๆและทำคอตกจนน่าสงสาร
"ก็จื่อเทาเบื่อนี่ปกติจื่อเทานั่งตรงนั้นพี่อี้ฟานไม่เห็นจะเคยบ่น"
น้ำเสียงใสเจือแจ้วตอบกลับจนน่าปวดหัวผมยกมือกุมหัวไม่รู้จะอธิบายให้เจ้าแมวนุษย์นี่ยังไง
ก่อนจะปรับอามรณ์ของตัวเองนั่งลงข้างๆจื่อเทาที่มองผมตาปริบๆ
"ตอนนี้จื่อเทาเป็นคนแล้วนะหรือจื่อเทาอยากกลับไปเป็นแมว"
ใบหน้าหวานส่ายหน้าไปมาแทบจะทันที
ผมถอนลมหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจับไหล่บางให้หันมาสบตากับผม
"ตั้งแต่นี้ต่อไปจื่อเทาห้ามทำแบบนี้อีกนะ
รู้ไหมพี่แทบหัวใจวายตาย"
"ไม่นะพี่อี้ฟานห้ามตาย!"
น้ำเสียงตื่นตกใจแทบทำให้ผมหลุดขำพรืด
หันใบหน้ามองจื่อเทาที่เบิกตาโพลงทำท่าทางตื่นตกใจจนน่ารัก
"ถ้างั้นก็ห้ามทำแบบนี้อีกนะอยู่ห่างระเบียงเลยยิ่งดี"
"แล้ว...
ไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้านได้ไหม"
"เพื่อนข้างบ้าน?" ผมขมวดคิ้วถามเด็กหนุ่มจื่อเทาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะคุยจ้อออกมา
"ก็เปอร์เซียข้างบ้านไงจื่อเทาชอบปีนไปเล่นกับเขาบ่อยๆนิสัยดีมากๆเลยล่ะ"
"เดี๋ยวนะๆจื่อเทาปีน...
ปีนนี่คืออะไร"
"ก็เวลาที่พี่อี้ฟานไม่อยู่จื่อเทาเหงาก็เลยแอบปีนไปบ้านตรงข้าม
แต่มันปีนยากมากเลยล่ะเพราะจื่อเทาไม่ได้ปราดเปรียวเหมือนตอนเป็นแมว"
คำตอบของจื่อเทาทำให้ผมหน้าชาไม่น้อยเบิกตาโพลงด้วยความตกใจและยกมือขึ้นกุมขมับที่ปวดหนึบ
แทบอยากจะร้องไห้ออกมา
นี่ถ้าผมกลับมาบ้านแล้วได้รับข่าวร้ายว่ามีคนตกลงมาจากชั้นสี่ผมจะทำยังไงกันนะ!
"จื่อเทา...
ต่อไปนี้ห้าม! ห้ามปีนห้ามป่ายห้ามๆๆๆ
ที่เกี่ยวกับแมวลืมไปเลยสัญชาติญาณของความเป็นแมวไม่อย่างนั้นพี่นี่แหละจะตายแทนจื่อเทา!"
เจ้าแมวขี้สงสัยเอียงคอมองอี้ฟานที่เริ่มจะบ้าตายเพราะปวดหัวเรื่องที่ได้รับฟัง
ทอดมองอี้ฟานที่ยีหัวของตัวเองไปมาว่าจะทำยังไงให้จื่อเทาเลิกทำนิสัยแบบนี้เสีย
ในใจของจื่อเทารู้สึกไม่ดีนักที่เห็นอี้ฟานโกรธแบบนี้
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากนักหรอกที่จะทำให้อี้ฟานหายโกรธ
เพียงแค่เข้าไปกอดและซุกหัวนัวเนียเข้ากับแผ่นอกนั่นอี้ฟานก็ฉีกยิ้มกว้างให้เห็นแทบลืมโกรธ
"พี่อี้ฟานไม่รักจื่อเทาหรอ..."
น้ำเสียงออดอ้อนยานคางถามเสียงหวานพลางช้อนดวงตาขึ้นมองอี้ฟาน
ทำให้คนที่ถูกอ้อนจ้องวงหน้าหวานนิ่งก่อนจะถอนลมหายใจออกมาดังเฮือกโอบกอดร่างบางเอาไว้เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อน
"รักสิไม่รักจะห่วงมากขนาดนี้หรอ"
รอยยิ้มสดใสยิ้มให้อี้ฟานจนตาหยีก่อนจะเขย่งปลายเท้าหอมแก้มอี้ฟานด้วยความคิดถึง...
ว่าแต่...
การที่จื่อเทาออกไปเล่นกับเพื่อนบ้าน การที่จื่อเทาชอบนั่งเล่นที่ระเบียง
และการที่จื่อเทาชอบปีนตู้กระโดดตบแมลงที่แอบบินเข้ามาในห้องจื่อเทาผิดตรงไหน...
"พี่อี้ฟานพรุ่งนี้จื่อเทาขอไปเล่นกับเพื่อนบ้านอีกนะ"
"ไม่ได้!!!"
END