วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

(ฉากตัด) โฉมงามกับอสูร ตอนที่19 คืนที่หิมะโปรย




ดวงตาขององค์ชายหลับพริ้มไม่คิดขัดขืน รับเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดอยู่ภายในโพรงปาก อ้อมกอดแกร่งดึงเขาลงมาโอบกอดจนกายแนบชิด เสียงดูดลิ้นดังจวบจาบส่งไอกรุ่นของตันหาจนร่างกายร้อนรุ่ม
มือแกร่งปัดป่ายไปตามแผ่นหลังยิ่งเพิ่มความร้อนระอุให้กับผิวเนื้อ จากความหนาวเหน็บกลายเป็นไออุ่นที่แผ่ออกมาจากกาย สองชายแนบชิดแทบจะเป็นคนๆเดียว
เมื่อเจียเหิงผละริมฝีปากออกมา สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นและสั่นเครือของหลงเถา ก็ยิ่งเพิ่มแรงปรารถนาในกายให้เดือดพล่าน ดวงตาเชื่อมสวยหยาดเยิ้มทอดมองลงมา ชวนให้ใจถวิลหาและร่างกายถลำลึกโน้มใบหน้าประทับจุมพิตอีกครั้งหนึ่ง
ลมหายใจอุ่นแทบจะเป็นคนๆเดียวกัน ความซาบซ่านในกายชวนให้อกสั่นวาบหวิว เนื้อกายกระสันจนตัวเกร็งยามเมื่อจมูกโด่งสำรวจไปตามซอกคอระหง สาบเสื้อหลุดล่นจนเห็นแผงอกเรียบเนียนละเอียด ดวงตาฉ่ำน้ำทอดมอง...
นี่... นี่ข้าเป็นอะไรไป ข้ายอมให้เจียเหิงกอดอย่างนั้นหรือ ใจของข้ามันเต้นแรงจนร่างกายสั่นเทาไม่คิดแม้แต่จะผลักใสออกไป ใจข้าก็ต้องการเขามากเหลือเกิน...
ริมฝีปากอวบประทับลงไปตามผิวกายอย่างช้าๆราวกับสำรวจ เสียงครางแผ่วเบายิ่งชวนให้กายกระสัน ร่างกายแข็งขืนขึ้นมาฉับพลัน อยากครอบครองร่างกายนี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
"หลงเถา..." คำกระซิบแผ่วเบาเย้าย้วนนัก หลงเถาครางต่ำรับรู้การเรียกหา ดวงตาสวยปรือขึ้นล่องลอย ราวกับหลุดอยู่ในภวังค์เสน่หาของเจียเหิง ความนึกคิดแทบดับสิ้น รู้แค่เพียงว่าตัวเขาเองก็ต้องการเช่นกัน วงแขนเรียวโอบรัด โอบรอบลำคอแกร่งพลางแอ่นกายรับจูบสัมผัสที่เขามอบให้
ลมหายใจหนักหน่วงเป่ารดไปตามผิวกายที่ร้อนรุ่ม ไอเย็นตีรวนจนรูขุมขนตั้งชันไปทั้งร่าง ยามเมื่อร่างกายเปล่าเปลือยด้วยน้ำมือของเจียเหิง ร่างกายก็ยิ่งร้อนระอุดั่งไฟรน มันสับสนจนเกร็งแลดูไร้เดียงสา
รอยยิ้มกรุ้มกริ่มประดับบนใบหน้าคมดุ เจียเหิงประทับจุมพิตลงบนเปลือกตาขององค์ชายที่หลับแน่น พยายามปลอบขวัญด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"ข้ารักท่าน... องค์ชายน้อยของข้า อย่ากลัวไปเลย" คำแผ่วเบาชวนให้จิตใจล่องลอยและเคลิบเคลิ้ม ชั่วขณะนั้นร่างกายผ่อนคลายลงมาก ท่อนกายเบื้องล่างร้อนผ่าวถูกกระตุ้นโดยมือแกร่งจนต้องหดเกร็งอีกครั้ง เสียงครางหวานที่เกือบจะเล็ดรอดออกมาทุกครา ทำให้องค์ชายต้องยกมือขึ้นปิดปากด้วยความยำเกรง กลัวเหลือเกินที่สองตายายจะได้ยิน
"ไม่ต้องปิด ข้าอยากได้ยินเสียงท่าน" คำออดอ้อนพร้อมลมหายใจอุ่นนั้น ชวนให้หลงเถารู้สึกโกรธไม่น้อย
"เจ้าบะ อ่ะ อือ..." เอ่ยไม่ทันจบประโยคก็ต้องรีบยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อมือแกร่งรูดรั้งแก่นกายที่แข็งขืน องค์ชายยกมือขึ้นปิดปากแน่น หอบหายใจหนักหน่วงหลั่งน้ำตาปริ่ม เหมือนร่างกายมันอึดอัดจวนเจียน แทบจะระเบิดแหลกละเอียดคามือแกร่งที่พยายามปรนเปรอเขา
ริมฝีปากอวบอิ่มประทับจุมพิตปลอบขวัญซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือหนาปัดป่ายไปตามร่างกายขององค์ชาย เลื่อนริมฝีปากเข้าใกล้กดจูบดูดเม้มริมฝีปากกระจับที่ฉ่ำน้ำ เสียงครางหวานชวนให้หัวใจเต็มไปด้วยความเสน่หารัญจวน แก่นกายแข็งขืนเตรียมพร้อม โอบกอดลูบคลึงพลางสวนทางเข้ามา...
"อือ้... เจีย เจียเหิง..." เสียงครางหวานทุ้มต่ำแหบพล่า นิ้วเรียวจิกรั่งไหล่แกร่งเพื่อระบายความเจ็บปวดและความต้องการนี้ กัดฟันขบเม้มเมื่อท่อนลำที่แข็งขืนพยายามรุกล้ำเข้ามาในช่องทางที่คับแคบ เสียงครางหวานแว่วเสียงอ่อน ยิ่งทำให้กายแกร่งต้องการเพิ่มเท่าทวี
"หลงเถา..." คำเรียกหาผะแผ่วจูบประโลมปลอบขวัญ กระชับอ้อมกอดเอาไว้แน่น ร่างกายนิ่งค้าง ก่อนที่จะขยับแผ่วเบา เมื่อเจอความอุ่นท่ามกลางความหนาวก็บรรเลงเพลงรักแทบไม่ปราณี
เสียงกระเส่าครางเครือเป็นระยะ จากความเจ็บปวดในคราแรกกลับกายเป็นความกระสันปั่นป่วน ร่างกายบิดเร้าภายใต้กายแกร่ง รับเรี่ยวแรงที่กระแทกกระทั้นเข้ามาภายใน ดวงตาสวยฉ่ำน้ำตาปรือขึ้นสบใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของชายผู้นี้ รอยยิ้มบางๆยกยิ้ม โอบกอดกายแกร่งด้วยความรักที่ปรารถนา
เจียเหิงระบายยิ้มออกมาบางๆ จูบประโลมปลอบซับน้ำตาที่หลั่งริน
"ข้ารักท่าน องค์ชายน้อยของข้า..." คำรักเอ่ยออกมาไม่รู้จบยิ่งเพิ่มความวาบหวิวในกาย หลงเถาเพียงแค่ครางออกมาเสียงต่ำเพื่อรับรู้และตอบสนอง เพียงแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเจียเหิงมากแล้ว แม้คำๆนั้นจะไม่เอ่ยออกมา คนปากแข็งอย่างองค์ชายหลงเถา มีรึเจียเหิงจะไม่รู้ ยิ่งร่างบางโอบกอดกระชับตอบสนองมากเท่าใด คำว่ารักนั้นก็คงบอกเขาไม่รู้จบ
"ข้ารักท่าน..."

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ฟิคKrisTaoลำนำบุปผา ฉากตัดตอน บทเพลงรัก







เสียงสายน้ำคลอเสียงเนื้อกายที่เข้ากระทบ แสงสีเขียวอ่อนจากหิ่งห้อยคลอแสงสะท้อนจากดวงจันทร์ที่กระทบผิวน้ำ บรรยากาศรอบด้านนั้นหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจแต่สองร่างที่แนบชิดกลับร้อนรุ่มราวกับเปลวเพลิงที่ไม่อาจมอดดับ
จุมพิตจูบประทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งได้รับรสสัมผัสก็ยิ่งถวิลหาอ้อมกอดแกร่ง ดวงตาเรียวสวยหยาดเยิ้มประกายแสงสีนวลจากดวงจันทร์ชวนมอง อี้ฟานเกลี่ยนิ้วไปตามพวงแก้มพินิจใบหน้ารูปงาม ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตกอยู่ในห้วงความรักไม่อาจขึ้นสู่ห้วงหัวใจนั้นได้อีกแล้ว
"ข้ารักเจ้า จื่อเทา..." คำบอกรักกระซิบแผ่วเบาอ่อนโยน รอยยิ้มบางยกยิ้มก่อนจะก้มลงจุมพิตอีกครั้งซ้ำแล้วครั้งเล่า เสียงหวานภายใต้เรือนร่างครางกระเส่า "อ่ะ... อือ..." ยามเมื่อมือแกร่งที่เย็นเฉียบเเตะลงบนผิวกายที่ร้อนระอุ รูขุมขนตั้งชันไปทั่วทุกอณูของเรือนร่าง
มือหนาปัดป่ายไปตามร่างบาง ความสมบูรณ์แบบของจื่อเทา กล้ามเนื้อยามเมื่อลูบคลึงยิ่งเพิ่มตันหาราคะภายในจิตใจให้พลุกพล่าน อี้ฟานก้มลงจูบดูดดันที่เนินอก เมื่อเม็ดติ่งสีชมพูนั่นยั่วยวนหัวใจชวนให้น่าลิ้มรส แผ่นอกบางของชายหนุ่มแอ่นกายกระสัน ความรู้สึกปั่นป่วนแล่นปราบจนไม่อาจสะกดกลั้นเสียงหวานสั่นเครือ
"อ่ะ... อา พี่อี้ฟาน..."
ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มหวานที่เอ่ยเรียก ภายในกายก็ยิ่งรู้สึกต้องการจื่อเทามากขึ้นเท่านั้น ร่างแกร่งขยับขึ้นจุมพิตสบดวงตาเรียวสวยที่หลับพริ้ม ใบหน้าแดงซ่านตามอุณหภูมิของร่างกายที่พลุกพล่าน มือเรียวยึดจับไหล่แกร่งของอี้ฟานก่อนจะหายใจหนักหน่วงยามเมื่ออี้ฟานผละริมฝีปากออกมา วงแขนแกร่งช้อนเอวคอดเพื่อแอ่นรับแก่นกายที่แข็งขืนร้อนดั่งเหล็กกล้าที่ตีไฟสวนเข้ามา
ยามเมื่อรับรู้ความใจร้อนของอี้ฟาน จื่อเทากัดฟันแน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดกระสัน อี้ฟานโน้มตัวจูบจื่อเทาอีกครั้ง หวังปลอบประโลมให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย ลิ้นเรียวเกี่ยวกระหวัดพัวพันอยู่ภายใน ดื่มด่ำรสชาติอันหอมหวานดั่งน้ำผึ้งก็ไม่ปาน ยามเมื่อสบตาเรียวสวยที่หยาดเยิ้ม ดวงตาเรียวคมหรี่ลงราวกับยกยิ้มกรุ้มกริ่ม ยิ่งทำให้จื่อเทารู้สึกอายจนใบหน้าแดงจัด วงแขนโอบกอดลำคอแกร่งของอี้ฟานเอาไว้แนบแน่น ยามเมื่อแก่นกายแกร่งสวนทางเข้ามา
"อ่ะ อา.... ฮึก!"
ความรู้สึกปั่วป่วนยามเมื่อสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่แข็งขืน ราวกับร่างกำลังแยกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็รู้สึกดีตีรวนกับความเจ็บปลาบนั้นจนอกกระสั่นร่างกายกระตุกเกร็ง วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอาไว้คอยลูบแผ่นหลังปลอบประโลม กลีบปากอวบอิ่มจูบซับน้ำตาของจื่อเทาที่ไหลออกมาอย่างช้าๆ ความสุขล้นที่ทะลักทำให้จื่อเทาไม่อาจเก็บกลั้นความรู้สึก
"จื่อเทา..." เสียงครางทุ้มต่ำเมื่อแก่นกายอยู่ในช่องทางที่คับแคบ มันบีบรัดและร้อนรุ่มจนไม่อาจที่จะทนฝืน อกของเขานั้นแทบจะระเบิดไม่อาจสะกดกลั้นความใคร่ยามเมื่อแก่นกายฝังลึกเข้ามา ยิ่งผิวกายที่ชื้นเหงื่อเบียดเสียดจนร่างกายแนบชิด ก็ยิ่งเพิ่มความกระสันปั่นป่วน
กลีบปากอวบอิ่มจูบประทับไปตามใบหน้า ก่อนจะหยุดลงอยู่ที่ริมฝีปากกระจับได้รูปอีกครา สองแขนโอบรัดเอวบาง ปรนเปรอชายหนุ่มด้วยรสจูบร้อนแรง สะโพกแกร่งค่อยๆขยับอย่างช้าๆพร้อมกับร่างบางที่ผวาเฮือก ความกระสันแล่นพล่านไปตามร่างกาย มันรู้สึกวาบหวิวจนต้องครางอือสั่นเครือ
เสียงหวานของชายหนุ่มชวนให้อยากดื่มด่ำกลืนกินจื่อเทาไปทั้งร่าง อี้ฟานยิ่งขยับกายสวนทางรวดเร็วและหนักหน่วง เสียงจวบจาบจากรสจูบช่างร้องแรงไม่ปราณี เมื่อความอดทนอดกลั้นนั้นถึงขีดสุด เหงื่อร้อนไหลอาบกายบรรเทาความร้อนรุ่มยามเมื่อร่างกายกำลังเสียดสี จื่อเทายิ่งโอบกอดลำคอยึดไหล่แกร่งเมื่อร่างกายจวนเจียนแทบจะระเบิด
ดวงตาเรียวสวยปรือขึ้นหยาดเยิ้ม สบตาคมบนใบหน้ารูปงามที่ยกยิ้ม อี้ฟานก้มลงจูบซับน้ำตาปริ่มก่อนจะผละออกมา รีบเร่งสะโพกของเขาเมื่อความคับแน่นนั้นถึงขีดสุด ยิ่งทำให้จื่อเทาถึงกับแอ่นร่างรับสัมผัสที่อี้ฟานสวนเข้ามา
แก่นกายที่แข็งขืนเสียดสีเข้ากับแผงกล้ามเนื้อของผู้ที่ทาบทับ ยิ่งทำให้รู้สึกกระสันปวดหนึบจนถึงขีดสุด เมื่อความคับแน่นสวนเข้ามาจนถึงสุดทางของความใคร่นั้น สิ่งที่อัดอั้นก็ไม่อาจที่อดทนอดกลั้นได้อีกต่อไป เสียงหวานครางกระเส่า "อ่ะ อา..." ปล่อยน้ำรักเปรอะเปื้อนเต็มร่างกาย พร้อมๆกับที่อี้ฟานกระแทกกระทั้นเข้ามาจนสุดด้ามเป็นครั้งสุดท้าย ร่างกายกระตุกเกร็งถึงสองครั้งก่อนจะหยุดลงเมื่อปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนหมดสิ้น...
เสียงหอบหายใจหนักหน่วงคลออยู่ที่ลำคอของอี้ฟานเมื่อร่างแกร่งยังคงทาบทับเรือนร่างของจื่อเทา ตัวเขาค่อยๆขยับกายยันแขนขึ้นมองใบหน้ารูปงามที่อิดโรย ยามเมื่อเห็นดวงตาที่ปรือขึ้นเหงื่อเม็ดใสผุดพรายกระทบแสงจันทร์ที่สาดส่อง ความประทับใจนั้นทำให้เขาอยากจะกลืนกินจื่อเทาอีกครั้ง และอีกครั้ง ให้ร่างกายของชายหนุ่มแตกละเอียดภายในอ้อมกอดของเขา
กลีบปากอวบอิ่มยกยิ้มกรุ้มกริ่ม สายตาของอี้ฟานที่ทอดมองลงมานั้นแทบอยากให้จื่อเทาใช้สองนิ้วจิ้มไปที่ดวงตาคมคู่นั้นเสีย เพียงแค่เห็นสายตาก็เดาใจของผู้ที่อยู่ตรงหน้าออก จื่อเทาเอ่ยดักคอเอาไว้ว่า "ท่านอยากจะฆ่าข้าให้ตายภายใต้อ้อมกอดของท่านหรือไร ถึงได้มองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น"
อี้ฟานกระตุกยิ้มที่มุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์ชวนให้น่าหงุดหงิดใจ เขาเอ่ยตอบโต้กลับไปว่า "ข้ามองเจ้าเช่นไรกัน หืม..." คำหยอกล้อว่าพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ จนจื่อเทาต้องบีบจมูกโด่งเป็นสันนั่น ดันตัวของอี้ฟานให้ลุกขึ้นไป ขยับร่างกายลุกขึ้นตามแต่ความคับแน่นที่ไม่ยอมอ่อนลงทำให้เมื่อขยับกายความรู้สึกกระสันก็แล่นไปตามก้นกบ จนเผลอคราง "อ๊ะ!" ออกมา จื่อเทายกมือขึ้นปิดปาก ใบหน้าแดงซ่านเหลือบมองอี้ฟานที่ยกยิ้มกรุ้มกริ่ม
"หากจะโทษใครก็ควรเป็นตัวเจ้าเองที่ยั่วข้าเช่นนี้" เสียงหัวเราะหึหึในลำคอที่ป่วนประสาททำให้จื่อเทารู้สึกอาย ชายหนุ่มรีบผลักอกแกร่งที่โน้มตัวเข้าหาเพื่อยับยั้งหัวใจที่กำลังเต้นแรง ชายหนุ่มเบือนใบหน้าหลบหนีสายตาแล้วเอ่ยเสียงสั่นว่า
"ข้าออกมานานมากแล้ว ป่านนี้ชิ่งจูคงถูกจับได้และถ้าเป็นเช่นนั้นมันคงไม่ดีนักหากพวกเขาประมือกัน ชิ่งจูยิ่งเป็นคนใจร้อนอยู่ด้วย ขะ... ข้า... ข้าเป็นห่วงเขา" คำแผ่วเบาเอ่ย พลางเหลือบมองอี้ฟานที่ยังคงยกยิ้มอยู่ ดูท่าท่านแม่ทัพจะอารมณ์ดีเกินไปแล้ว
อี้ฟานพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขารู้สึกเสียดายหากต้องปล่อยจื่อเทาไปทั้งๆที่ชายหนุ่มน่าจับกินถึงเพียงนี้ ใบหน้ารูปงามพ่นลมหายใจออกมาผะแผ่วก่อนจะดึงกายออกมา เหยียดตัวคุกเข่าต่อหน้าจื่อเทา ร่างกายกำยำสมส่วนยามเมื่อต้องแสงชวนให้น่าหลงใหล ความแข็งแกร่งของอี้ฟานใครๆก็ปรารถนาอยากให้เขาปกป้อง ดังเช่นจื่อเทา แม้ว่าจะเป็นชายแต่ก็มีรูปร่างบอบบางดังบุรุษที่งดงามยากนักที่ใครจะหักห้ามใจ
อี้ฟานแลเหมือนคนโง่คนหนึ่งที่ปล่อยจื่อเทาไปในเพลานี้ แต่เขารู้ตัวดีว่า จื่อเทาไม่อาจไปกับเขาได้อีกเช่นกัน คนรักของเขามักชอบกระทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิดเสมอ ชายหนุ่มคงมีแผนการอยู่ในใจแล้ว หรือจื่อเทาคิดจะทำศึกประชันหน้ากับเขาจริงๆกันเล่า เพียงแค่คิดก็รู้สึกขบขันอยู่ภายในใจ จื่อเทาน่ะหรือจะกล้าลงมือทำร้ายเขา ก็เหมือนที่เขาไม่กล้าลงมือทำร้ายจื่อเทาเช่นกัน หากเขาปล่อยมือของชายหนุ่มไปแล้วนั้น หลังจากคืนนี้เขาและจื่อเทาอาจกลายเป็นศัตรูกันจริงๆ
มือแกร่งรีบจับมือของชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อร่างบางเปลือยเปล่าลุกขึ้นหมายจะชำระล้างร่างกายที่ธารน้ำ ทำให้จื่อเทาต้องก้มลงมอง ยามเมื่อเห็นแววตาของอี้ฟานที่มองขึ้นมานั้นชวนให้รู้สึกปวดใจ เหตุใดต้องทำสายตาเศร้าหมองเช่นนั้นด้วยเล่า...
อี้ฟานลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาอุ้มร่างของจื่อเทาขึ้นโดยที่ชายหนุ่มไม่คิดขัดขืน ดวงตาเรียวสวยที่สะท้อนแสงงดงามนั้นภายในใจของอี้ฟานรำลึกเอาไว้เสมอว่าคนคนนี้คือของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่ว่าจื่อเทาจะเป็นใคร ถึงอย่างไรก็ยังเป็นจื่อเทาที่เขารักมากที่สุด ก่อนจากกันในครั้งนี้จึงอยากใช้เวลาที่มีค่าให้มากที่สุด
จื่อเทามองวงหน้าด้านข้างรูปงาม ดวงตาคมดุหันไปทางสายธารไม่กล่าวสิ่งใด พาร่างของเขาไปยังสายน้ำที่ไหลเอื่อย ร่างแกร่งค่อยๆเดินลงน้ำอย่างช้าๆ พร้อมกับปล่อยจื่อเทาให้สัมผัสสายน้ำที่เย็นเฉียบ วงแขนเรียวยังคงโอบไหล่ของอี้ฟานเอาไว้ เงยหน้าสบตาอาลัยรักที่ทอดมองลงมา แววตาของอี้ฟานเต็มไปด้วยความห่วงหา ไม่อยากปล่อยจื่อเทาให้จากไป
"ข้ารักเจ้าจื่อเทา... ต่อให้เจ้าเป็นศัตรูข้าก็ไม่อาจตัดคำรักนั้นออกจากเจ้า ความตายเท่านั้นกระมังที่จะทำให้ทุกคนเห็นว่าข้ารักเจ้ามากถึงเพียงไหน มิใช่แค่ความใคร่ชั่วครั้งคราว ทำไมกันนะ พวกเขาจึงคิดว่าคนที่น่าหลงใหลเช่นเจ้าเป็นคนเลวไปเสีย ทั้งๆที่ข้าสมควรจะได้รับคำนั้นเสียมากกว่า"
จื่อเทาสบใบหน้าที่ย่นคิ้วเข้าหากันแน่น ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาบางๆ เขาเอื้อมนิ้วเกลี่ยไรผมสลวยของอี้ฟาน โอบอุ้มใบหน้าด้วยสองมือ "ถูกแล้วล่ะ ข้าคือคนเลว... เพราะความเห็นแก่ตัวของข้าทำให้ใครหลายๆคนต่างพบแต่ความสูนเสีย หากข้าไม่พึงพอใจสิ่งใดข้าจะกำจัดมันซะ... ท่านยังคิดว่าข้าเป็นคนดีในสายตาท่านอีกหรือ?"
อี้ฟานมองจื่อเทานิ่งค้าง เขามองลึกเข้าไปในแววตาของจื่อเทาที่ยกยิ้ม สิ่งที่จื่อเทาเอ่ยออกมานั้นหาใช่ความจริงไม่ ตั้งแต่รู้จักจื่อเทามานั้นมีหรือที่เขาจะเดาใจจื่อเทาไม่ออก ความฉลาดของจื่อเทา ทุกสิ่งที่กระทำมักซ่อนแผนการเอาไว้เสมอ คนๆนี้เดิมทีคือผู้ที่มีจิตใจใสสะอาด แต่มันกลับแปดเปื้อนเพราะเขาที่นำพามาพบกับเรื่องที่ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนไป อี้ฟานคลี่ยิ้มออกมาบางๆ เขาเกลี่ยไรผมของชายหนุ่มขึ้นทัดหู วงแขนแกร่งโอบกอดแนบแน่น สูดกลิ่นกายของจื่อเทาจนเต็มปอด เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า
"ใช่... เจ้าคือคนดีของข้าเสมอ... ดังนั้นแล้ว หากคิดว่าสิ่งที่เจ้ากระทำนั้นถูกต้อง ข้าก็เชื่อว่ามันถูกต้องเช่นกัน... ข้าเชื่อใจเจ้าจื่อเทา... ตัวข้านั้นโง่เขลาไม่อาจวางแผนการได้ปราดเปรื่องเช่นเจ้า ไม่ว่าเช่นไรข้าก็อยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ..."
วงแขนแกร่งกระชับโอบกอดแนบแน่นอีกครั้ง ทำให้จื่อเทารู้สึกตื้นตันเมื่อได้ยิน เขากอดตอบอี้ฟานซุกใบหน้าเข้ากับแผ่นอกแกร่ง ความอบอุ่นที่ได้รับตราตรึงอยู่ในจิตใจ รอยยิ้มบางเปี่ยมสุขยกยิ้มเมื่อได้รับฟังในสิ่งที่อี้ฟานกล่าว ภายในค่ำคืนที่เหน็บหนาว กลับอบอุ่นราวกับร่างกายต้องแสงตะวัน โอบกอดด้วยวงแขนแกร่งเสมือนปกป้องเขาจากความโชคร้าย...
ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง... หากพวกเขาไม่ยอมให้เราอยู่ด้วยกัน คงเป็นความตายเท่านั้นที่จะยุติเรื่องราวบัดซบเหล่านี้... เมื่อเรื่องมาถึงจุดสิ้นสุด ข้าหวังว่าจะเห็นภาพของเราสองคนเดินจูงมือมุ่งหน้าสู่แสงอรุณที่สาดส่องท่ามกลางบุปผานับหมื่น ข้ายิ้มให้ท่านอย่างเปี่ยมสุข และท่านคอยกระชับฝ่ามือของข้า และยิ้มตอบรับเดินไปข้างหน้าด้วยกัน...
ข้าให้สัญญา...

บทเพลงรักจากกลีบเถาฮวาคลอเสียงไปตามสายลมเอื่อย... อี้ฟานทอดมองแผ่นหลังบางที่ควบม้าจากไปอย่างช้าๆ สายตาคมทอดมองออกไปไกลแสนไกล มองแผ่นหลังของคนรักที่จากไปด้วยความรู้สึกคิดเป็นห่วง ภายในใจนั้นรู้สึกเจ็บปลาบเมื่อไม่อาจไขว่คว้าให้จื่อเทากลับมา...
บทเพลงรักท่ามกลางสายลมนี้ ข้าขอมอบให้แก่เจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนาในใจนั้นคือหวังให้เจ้าปลอดภัย ต่อให้เจ้าปักกระบี่มาที่กลางอกของข้า ตัดขั้วหัวใจจนขาดสะบั้น ตัวข้านั้นจะไม่คิดกล่าวโทษเจ้าเลย นอกเสียจากคำขอบคุณที่เจ้าทำให้ข้ารู้จักกับรักแท้... ข้าจะรอเจ้า จื่อเทา...  
ลาก่อน...






....
โอะ โย๊ะ โหยว... น้องเทาคิดจะทำอะไรกันน๊า... เดาใจไม่ออกเลยจริมๆ
อ่านความคิดของน้องเทาแล้วกลัวใจเหลือเกินว่าจะฆ่าพี่ฟานหมกป่าแล้วฆ่าตัวตายตาม
555 ถ้าเป็นแบบนั้นเลิกปั่นฟิคท่านหญิงต่อเถอะ คัท! คัทจบไปเลย

ติดตามตอนต่อไปในอีก... 2-3วันข้างหน้านะคะ อิอิ

วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

ฉากที่ถูกตัด ฟิคลำนำบุปผา ตอน เส้นทางเเห่งรัก


#ฟิคลำนำ #บุปผาระทม
อย่าลืมเม้นโหวตบ้างนะคะ^^




ค่ำคืนอันหนาวเหน็บเนิ่นนานดั่งหยุดเวลาเอาไว้ สองร่างกายต่างกอดเกยแนบชิด วงแขนแกร่งโอบกอดเอวบาง โน้มชายหนุ่มจูบประทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ดวงตาเรียวคมหยาดเยิ้มดุจน้ำค้างกระทบแสง ทอดมองอี้ฟานพลางย่นคิ้วเข้าหากันแน่น ความอ่อนโยนยิ่งทำให้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้ม ล่องลอยประดุจปุยเมฆนุ่มบนท้องนภา นิ้วแกร่งเกลี่ยใบหน้า เชยชมตราตรึงเนิ่นนานดื่มด่ำซึมซับเข้าสู่ห้วงหัวใจ ก่อนจะก้มลงจูบประทับดูดดื่มอีกครั้งและอีกครั้ง
วงแขนบางโอบรอบลำคอแกร่ง ดวงตาหลับพริ้มรับเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดอยู่ภายใน ร่างกายร้อนระอุดั่งไฟโหมกระหน่ำ ยามเมื่อมือแกร่งลูบไล้ผ่านไปตามเนื้อผ้า ยิ่งสร้างความกระสันจนร่างกายรู้สึกสั่นสะท้าน
ดวงตาเรียวคมจับจ้องดวงตาที่เชื่อมมอง พวงแก้มเห่อร้อนแดงระเรื่อดั่งผลท้อสุก กลีบปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ร้าย พลางล้วงมือหยาบไปตามสาบเสื้อที่หลุดหล่นลงมา สัมผัสผิวเนียนละเอียดดั่งขนแมวของชายหนุ่มผะแผ่ว...
"อือ..." เพียงแค่สัมผัส ร่างกายกลับตอบสนองเต็มเปี่ยม ความรู้สึกนี้เป็นเพียงเฉพาะอี้ฟานเท่านั้น รู้สึกร่างกายปั่นป่วนเจียนตาย ใบหน้าหวานเห่อร้อนหลับตาแน่น ร่างกายเกร็งจนอี้ฟานอดขำไม่ได้ มือหยาบลูบไปตามกาย ไล่ไปตามหน้าอก ลูบไล้ไปตามสะโพกมนอย่างช้าๆ โน้มตัวกระซิบเข้าหา เอ่ยเรียก "จื่อเทา..." น้ำเสียงช่างอ่อนโยนยิ่งนัก
ค่อยๆลืมตามองอย่างช้าๆ สบดวงตาคมที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจที่เป่ารด "มองข้าสิ" คำกระซิบเอ่ยสั่งดั่งสายลม ก่อนจะก้มลงดื่มด่ำความหวานจากกลีบปากกระจับนุ่มนิ่ม ค่อยๆปลดเสื้อผ้าของตนออกไป เผยให้เห็นอกแกร่ง ยามใดที่จื่อเทาสัมผัส ยิ่งรู้สึกขวยเขินในใจยิ่งนัก ร่างกายนี้ร้างลามานาน แต่กลับจดจำได้ขึ้นใจ
เมื่อผละออกมาจากกลีบปาก ดวงตาของจื่อเทาจับจ้องไปยังผ้าพันแผลบนหน้าอกนั่นของอี้ฟาน ย่นคิ้วด้วยสีหน้าประหลาด ก้ำกึ่งความกังวลใจและเจ็บปวด หัวใจกระตุกเกร็งทุกครั้งเมื่อเห็นบาดแผลนี้ ไล่ดวงตาขึ้นมา ยังเห็นร่องรอยจากบาดแผลพยัคฆ์ ชายหนุ่มยกมือเรียวสัมผัสด้วยหัวใจสับสนว้าวุ่น
ทำไมข้าถึงรู้สึกกลัว...
ยามเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าของจื่อเทา ช่างน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ชายหนุ่มเจ็บปวดเพราะเห็นข้าบาดเจ็บหรือนี่ แม้ไม่เอ่ยถาม แต่ก็รู้ว่าจื่อเทาห่วงข้ามากเพียงใด ค่อยๆจับมือเรียวที่สัมผัสบาดแผลเขาเอาไว้ จูบประทับสบตาจื่อเทาที่น้ำตาคลอ...
"บาดแผลนี้... ข้าเคยใช้ชีวิตเพื่อผูกใจเจ้า แต่บัดนี้ ข้ากลับคิดว่ามันคือบาดแผลที่ล้ำค่า... ทำให้ข้ารู้ตัวว่า คนที่ข้าคู่ควรมอบชีวิตให้ นั่นคือเจ้า..."
แววตาอาลัยรักทอดมอง สีหน้าเจ็บปวดนัก พอแล้ว ได้โปรดหยุดเอ่ยมันออกมา วงแขนบางโอบกอดแนบแน่น จุมพิตอี้ฟานยอมเปิดรับรักจากท่านแม่ทัพผู้นี้
ยามเมื่อกายแนบชิด ร่างกายยิ่งร้อนระอุ ชายหนุ่มกัดปากหอบหายใจรวยริน ทอดมองร่างแกร่งที่อยู่ตรงหน้า สายตาคมคู่นั้นที่ทอดมองลงมาราวกับสะกดจิตใจให้ดำดิ่ง เรียวขายกขึ้นกอดก่าย มือแกร่งหยาบกร้านลูบไล้ไปตามเนื้อกายจนอกกระสั่น  
จุมพิตบนเรียวขาข้างนั้นที่สั่นเทาดวงตาทอดมองแทบไม่กระพริบ จูบไล่ลงไปตามเรียวขากระทั่งถึงจุดอ่อนไหว ยามเมื่อเรียวลิ้นครอบงำเอาไว้ ร่างกายของจื่อเทาถึงกับกระตุกเกร็ง
"อะ... อือ..." เสียงหวานครางกระเส่า แอ่นกายบิดเร้า มือเรียวกอบกุมเส้นผมสลวยยามเมื่อริมฝีปากขยับเข้าออก พยายามปรนเปรอร่างบางร่างกายตอบสนองจนอกแทบจะระเบิด แก่นกายเบื้องร่างแข็งขืนตั้งชัน ปวดหนึบราวกับร่างจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นมัว
เสียงหวานครางสั่นเครือ "ยะ อย่า..." ยามเมื่อกลีบปากอวบอิ่มพยายามดูดดื่มมันจนหมด ราวกับน้ำหวานจากเกสรกลิ่นคาวหอมหวานคละคลุ้งภายในปาก จนอยากลองชิมลิ้มรสร่างกายจื่อเทาเสียเดี๋ยวนั้น
 ขยับกายทาบทับร่างกายของชายหนุ่ม มือแกร่งลูบไล้ไปตามแผงอกที่สั่นเทา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายยกยิ้ม อดไม่ได้ที่จื่อเทาจะก่นด่าในใจ แต่ก็ต้องหลับตาลงอย่างช้าๆ ยามเมื่อร่างแกร่งทาบทับลงมาจนกายแนบชิด ริมฝีปากอวบอิ่มประทับจูบแผ่วเบา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วง เกี่ยวกระหวัดลิ้นภายในกระพุ่งแก้มนิ่ม รับรู้รสชาติปร่าลิ้นที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง
"อือ..." วงแขนบางโอบรัดรอบคอลำคอแกร่ง เมื่อร่างกายไม่อาจทนได้อีกต่อไป จื่อเทาต้องการอี้ฟานมากกว่านี้ มือหยาบลูบไปตามแผงอกความร้อนในกายยิ่งปะทุเพิ่มทวี กลิ่นหอมจากผิวกายจื่อเทาราวกับผลไม้ที่หอมหวานจนอยากลิ้มลอง อี้ฟานเลียริมฝีปากก่อนจะยกยิ้มบาง ขบเม้มไปที่ลำคอระหงส์ ทำให้จื่อเทาครางหวาน เสียงที่ฟังดูแปลกหูนั้นแทบทำให้เขารู้สึกบ้า!
มือแกร่งรูดคลึงจุดที่อ่อนไหวอีกครั้ง ทำให้ร่างบางกระตุกเกร็ง ขยับแนบชิดเข้าหาอี้ฟานแทบไม่มีช่องว่าง เรียวขาหนีบรั้งกระทบผิวกายที่แข็งแกร่ง
ต้องการมากกว่านี้...
ดวงตาเชื่อมปรือขึ้นทอดมอง หยาดเยิ้มดั่งน้ำค้างต้องแสงแพรวพราว อี้ฟานทอดมองอย่างโหยหา อยากดูดซับน้ำตาที่เอ่อคลอ
ทำไมถึงได้ยั่วยวนหัวใจข้าถึงเพียงนี้จื่อเทา...
"อะ อา!!!"
ยามเมื่อชายหนุ่มเผลอไผล แก่นกายอันแข็งขืนสวนเข้ามาภายในช่องแคบเบื้องล่างอย่างช้าๆ นิ้วเรียวดึงรั้งแผ่นหลังแกร่ง กัดฟันข่มความเจ็บเจียนตาย หอบหายใจหนักแทบสิ้นลม อี้ฟานพยายามปลอบประโลมด้วยจุมพิตแผ่วเบา จูบซับน้ำตาปริ่มเอ่ยเรียกชายหนุ่ม ราวกับปลอบขวัญให้ใจจื่อเทาคิดคำนึงแต่เสียงเรียกหานี้
ไม่นานนัก แก่นกายสวนผ่านช่องทางอันคับแคบจนสุดทาง แต่ก็ทำให้ร่างกายชายหนุ่มแทบกระอัก แม้รู้สึกเจ็บ แต่ก็สุขในคราเดียวกัน ปรือดวงตาหยาดเยิ้ม คิ้วเรียวขมวดเข้าหาสบตาอี้ฟานที่ทอดมองลงมาไม่หลบลี้ อยากจดจำดวงตาคู่นี้เอาไว้ให้นานที่สุด
รอยยิ้มละไมแย้มยิ้มอ่อนโยนช่างอบอุ่นยิ่งนัก ฝ่ามืออุ่นกอบกุมใบหน้าราวกับโหยหาเนิ่นนาน อี้ฟานไม่เคยรู้สึกหวงแหนใครได้เท่านี้อีกแล้ว จื่อเทาเจ้ารักข้าบ้างหรือไม่...
โน้มตัวลงประทับจุมพิตอีกครั้ง ก่อนจะกอดร่างบางแนบแน่น วงแขนบางโอบกอดตอบสนองร่างกายแกร่ง รับความร้อนระอุที่ปะทะเข้ามา บทเพลงรักนี้เนิ่นนานจนหาจุดสิ้นสุดมิได้ กอดก่ายประสานกลมกลืนร่างเป็นหนึ่งเดียว ข้ายอมรับในรักจนไม่อาจฉุดรั้งขึ้นมา ไม่อาจหลุดออกจากราคะที่อัดแน่นเต็มหัวใจ ตอบสนองทุกการสัมผัส ไม่คิดหยุดยั้งหรือปฏิเสธอีก รู้แค่เพียงว่าต้องการเพียงแค่เจ้ามากเท่านั้น ใจข้า... ไม่อาจตัดใจจากจื่อเทาได้อีกแล้ว...
เสียงของเจ้า หัวใจของเจ้า ยังคงดังก้องอยู่ในใจข้าดวงนี้...
'ท่านรู้สึกเช่นไรกับข้า...'
'ความรู้สึกของข้า ก็เหมือนกับหัวใจของเจ้านั่นล่ะ...'
'ฮึ เหมือนข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าคนโกหก...'

'ฮะฮะ...'




วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

KrisTao ดั่งคำอธิฐาน





ถ้าหากการขอพรจากดวงดาวที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสามารถทำให้ความปรารถนานั้นเป็นจริงได้ผมเองก็หวังว่าความฝันของผมจะเป็นจริงสักครั้งหนึ่ง...
"จื่อเทาดื่มนมซะสิ อา...เป็นอะไรไปนะทำไมดูหงอยๆล่ะ"  ผมเงยหน้ามองเจ้านายที่นั่งยองๆคุยกับผมพลางดันจานใบสวยซึ่งบรรจุนมไว้เต็มมาให้  จ้องสบตาเจ้านายที่ทอดมองผมด้วยแววตาที่ห่วงใยฝ่ามือหนาที่อบอุ่นลูบกลุ่มขนสีดำนุ่มนิ่มไปมาด้วยความอ่อนโยน
            "เมี้ยว"  ผมไม่อยากดื่มนมผมโกรธคุณอี้ฟานได้ยินไหม!
แต่ถึงจะตะโกนไปเท่าไรเจ้านายที่รักของผมก็ไม่อาจรู้ว่าผมกำลังคิดยังไงกับเขา ความโกรธและน้อยใจทำให้ผมไม่อาจทนมองใบหน้าคมที่ทอดมองอยู่ได้อีกต่อไปจนต้องหันหลังให้และเป็นผมที่หนีออกไปเสียเอง
"เฮ้อ! โกรธอะไรฉันอีกละเจ้าแมวน้อย" น้ำเสียงห้วงใยปนเหนื่อยล้าหลังจากที่คาดคั้นให้ผมกินอะไรลงท้องเสียหน่อยทำให้เจ้านายกังวลเมื่อผมไม่ยอมกินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ใบหน้าคมก้มลงมองลูกเเมวที่เอาแต่นั่งนิ่งหันหลังหลบอยู่ใต้เตียง
"จื่อทาวววว  จื่อเทาอ่าออกมาหาพ่อเถอะมา" ผมหันไปมองร่างสูงที่นอนตะแคงอยู่ที่พื้นพลางทำสีหน้างอลง้อใบหน้าคมที่แสดงสีหน้าออดอ้อนนั่นไม่ว่าครั้งไหนๆผมก็มักจะหลงกลตลอดต่อให้โกรธมากแค่ไหนผมก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธเขาได้เลย
                 "เมี้ยวๆๆ!"  ผมไม่อยากได้คุณเป็นพ่อ! แบร่!
"อ่าเจ้าแมวน้อยออกมาเล่นกับอี้ฟานสิเร็วๆเมี้ยวๆๆๆ"  อี้ฟานพยายามใช้ของเล่นมาล่อเพื่อให้ผมออกมา ผมหันไปมองเจ้าหางกระรอกยาวๆสีชมพูหวานแหวนุ่มนิ่มน่าสัมผัสก่อนจะกลืนน้ำลายดักเฮือกและหันกลับมาทางเดิมเพื่อข่มใจ ทั้งๆที่อยากจะวิ่งเข้าไปตระครุบใจแทบขาดแต่ดูท่าเจ้านายผมไม่ยอมเลิกง่ายๆพยายามยื่นเจ้าสิ่งนั้งมาสะกิดหางของผมที่เริ่มแกว่งไปมาด้วยความหงุดหงิดใจ
"ไม่เล่นจิงหรอ ไม่เล่นๆอ่า จื่อเทาเมี้ยวๆๆ เป็นเด็กดีนะ" ผมหันไปมองอี้ฟานอีกครั้งผู้ชายคนนี้กำลังยิ้มให้กับผมพลางทำสายตาเจ้าเล่ห์ซุกซนพยายามยั่วสัตว์เลี้ยงให้ได้และมันก็ได้ผลเพราะสัญชาติยานมันอดใจไม่ไหวกับเจ้าขนนุ่มนิ่มนี่ รีบเอี้ยวตัวกลับมาวิ่งตามสิ่งที่อี้ฟานกำลังใช้หลอกล่อลูกเเมว
"ฮ่า! จับได้แล้ว!" ฝ่ามือหนาตะครุบตัวผมเอาไว้หมับทันทีที่ผมออกมาจากใต้เตียง ผมดิ้นเล็กน้อยเพราะยังโกรธผู้ชายคนนี้อยู่แต่เมื่อจมูกโด่งๆนั่นกดมาที่แก้ม มันทำให้ผมถึงกับแข็งทื่อสงบนิ่งจ้องมองผูชายคนนี้ราวกับถูกสะกดจิต หัวใจเต้นระรัวจนมันแทบจะทะลุออกมาให้ได้
ปิ้งป่อง!
เสียงกดออดหน้าบ้านทำให้ร่างสูงเอี้ยวตัวกลับไปมองก่อนจะหันมามองผมพลางเบิกตาโต
"อี้ชิงมาแน่ๆเลยล่ะนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะเด็กดี" อี้ฟานวางผมลงไว้ที่เตียงก่อนจะรีบวิ่งไปหน้าประตูห้องเพื่อให้ใครบางคนเข้ามาและเขาก็เดาไม่ผิดเลยว่าเป็นใคร ผมนั่งมองชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในห้องของอี้ฟานพลางยิ้มให้ผมจนตาหยี
"ว่าไงจื่อเทาสบายดีไหม อี้มีขนมมาฝากด้วย อ้าว..." ผมรู้ว่าการเดินหนีผู้ชายคนนี้เป็นการเสียมารยาทแต่ทว่าการที่ทนอยู่กับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าทำให้ผมทนไม่ได้เช่นกัน ผมเดินไปที่เตียงนอนซึ่งอี้ฟานมอบให้ผมเป็นของขวัญฉลองครบสามเดือนที่มาอยู่ที่นี่ก่อนจะแกล้งฟุบหลับไม่สนใจพวกเขา คอยเงียบหูฟังเสียงของพวกเขาที่กำลังหยอกล้อด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข

"อี้ฟานอ่าอย่าสิเลย์จักจี้นะ"


"ก็เลย์หอมนี่ใครอี้ฟานหอมหน่อยนะ"


เหอะ! หน้าไม่อาย...
สุดท้ายแล้วผมก็ทนไมได้และเป็นคนลุกหนีพวกเขาออกไปข้างนอกแทน...
ผมแหงนมองท้องฟ้าซึ่งประดับไปด้วยหมูดาวที่มีเพียงแค่น้อยนิดเพราะถูกแสงไฟของบ้านเรือนนั้นบดบังแทบไม่มีเหลือ ผมเคยดูหนังกับอี้ฟานบ่อยและรู้มาอย่างหนึ่งว่าการขอพรกับดวงดาวจะทำให้ความปรารถณาของเราสมหวังแต่ผมจะสมหวังได้ยังไงในเมื่อที่นี่ไม่มีดาวตกเลยสักดวงอย่าว่าแต่ดาวตกเลยลำพังดาวที่กำลังประดับอยู่บนท้องฟ้ายังส่งแสงริบหลี่แทบมองไม่เห็น
ผมฟุบลงอยู่ที่ราวระเบียงของบ้านนั่งรับลมที่พัดเอื่อยด้วยความรู้สึกน้อยใจเพราะรู้ว่าตอนนี้อี้ฟานกำลังทำอะไรอยู่และมันเป็นเรื่องที่แมวอย่างผมรับไม่ได้เสียด้วยสิ ถึงแม้ว่าอี้ฟานจะดูเหมือนรักผมแต่ทว่าผมก็เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งเท่านั้น ในยามที่ผู้ชายคนนั้นเข้ามาต่อให้เขาจะดูเหมือนใส่ใจมากแค่ไหนอี้ฟานก็มักจะลืมผมมาตลอด มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะแกล้งประชดให้เขาทุกข์ใจเพราะเห็นผมไม่ยอมกินอะไรเลย
"ไงโดนทิ้งอีกแล้วสิ" น้ำเสียงเหน็บแนมของเจ้าแมวจรจัด เจ้าลู่หานชะเง้อหน้าออกมาจากหลังคาถามผมด้วยถ่อยคำที่เยาะเย้ย ผมหันไปมองแวบหนึ่งก่อนจะทำเมินเฉยไม่สนใจและแน่นอนว่าไอ้แมวตัวสีขาวบ้านี่ต้องโกรธอย่างแน่นอน
"เหอะ ทำเป็นเมินนะไงล่ะบอกว่าเจ้านายรักนักรักหนาสุดท้ายก็ถูกทิ้ง มนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ซะทุกคนนั่นแหละ" ผมมองเจ้าแมวร่างเปรียวกำลังกระโดดลงมาจากหลังคาและค่อยๆเดินอาดๆมาทางราวระเบียงเพื่อมาพูดทับถมผม
       "พูดมากก็ดีกว่าคนบางคนที่ไม่มีเจ้าของแล้วขโมยข้าวคนอื่นกินละนะ" ผมตอกกลับไปด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบแต่ทว่าไอ้บ้านี่มันหน้าด้านเกินจะเยียวยาทำให้มันไม่ทุกข์ร้อนกับคำของผมเลยสักนิด
"หึ! โทษฉันไม่ได้นี่ ก็ฉันมันแมวขโมย" เห็นไหมผมบอกแล้วว่าไอ้บ้านี่มันเกินจะเยียวยาจริงๆ
              ผมมองลู่หานที่กระโดดผลุงลงไปที่ระเบียงในอานาเขตของผม และหยุดยื่นเพ่งมองเข้าไปข้างในของบ้านผมด้วยความสนใจ ดวงตากลมสุกใสเป็นประกายทำให้ผมไม่พอใจนัก
"โหววว น่าสนใจดีนะถึงห้องจะเล็กแต่ฟอร์นิเจอร์นี่ครบครันดูท่าเจ้านายแกคงจะรวยไม่น้อย แถมพาผู้ชายเข้ามานอนด้วยทุกคืนแบบนี้แมวบางตัวคงช้ำใจตายแย่"  เจ้าแมวปากเสียหันมาชำเลืองมองผมด้วยหางตาพลางทำสีหน้าเยาะเย้ยผมเต็มที่ อดไม่ได้ที่ผมจะรู้สึกหงุดหงิดกระโดดตุบ! เข้าผลักลู่หานเต็มแรง
              "นายอยากมีเรื่องกับฉันใช่ไหม!" ผมถลึงตาตวาดลั่นด้วยความหงุดหงิด แต่ก็เปล่งออกมาเพียงแค่แง้วๆนี่เท่านั้นแถมฟังยังไงก็ดูไม่น่าเกรงขามเหมือนเจ้าแมวข้างถนนนี่
"โอ๊ะๆๆๆ เดี๋ยวนี้มีสู้มาจัดให้" ลู่หานถกแขนของตนก่อนจะกำหมัดแน่นค่อยๆย่องมาทางผมอย่างเอาเรื่องทำให้แมวอย่างผมนี่ยอมไม่ได้กำหมัดเดินเข้าใส่ในทันที

แง้ว!!! เมี้ยว!! ง้ำ!
"อั่ก!" ผมกับลู่หานเราฟัดกันอย่างไม่มีใครยอมใครแถมเจ้าบ้านี่ก็กัดมาที่คอของผมเต็มแรงจนเจ็บ ทำให้ผมถึงกับร้องเสียงหลงลั่นระเบียงพร้อมๆกับประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกมาด้วยความเร็ว
"ไอ้แมวบ้าแกแกล้งจื่อเทาของฉันเหรอ!" น้ำเสียงทุ้มตวาดลั่นทำเอาผมกับลู่หานที่กำลังนัวกันอยู่ถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ และลู่หานก็รีบกระโจนหนีด้วยความเร็วเมื่อเห็นอี้ฟานเดินหน้าตึงหมายจะจับพวกผมแยกออกจากกัน
โถ่ไอ้แมวขี้โอ่ไม่แน่จริงนี่หว่า โด่วๆๆๆ อูยยยเจ็บง่า....
"ไม่เป็นไรนะ" ผมเงยหน้ามองอี้ฟานพลางน้ำตาคลอหน่วยแต่เมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังเปลือยกายพร้อมๆกับรอยกลีบกุหลาบเต็มอกทำให้ผมไม่สบอารมณ์นัก ความโกรธที่มีกับลู่หานกำลังครุกรุ่นทำให้ผมเหลืออดเหลือทนที่จะเห็นภาพนี้พยายามดิ้นขลุกขลักหนีออกมาจากอ้อมกอดแกร่งของอี้ฟาน แต่ดูท่าผู้ชายคนนี้ไม่ยอมง่ายๆ
"จื่อเทาไม่ต้องกลัวไม่มอะไรแล้ว"
ปล่อยนะปล่อยจื่อเทา!
"จื่อเทาดื้อกับอี้ฟานหรอ!" น้ำเสียงดุดันทำให้ผมตกใจไม่น้อยสบตาของอี้ฟานที่ขมวดคิ้วยุ่ง
           "เกิดอะไรขึ้นอี้ฟานจื่อเทาไม่ยอมเข้าบ้านหรอ" เจ้านายของผมหันไปมองผู้ชายคนนั้นที่โผล่หน้าออกมาถามทำให้ผมรู้สึกโกรธจนหน้ามืดมือสั่นทันทีที่อี้ฟานหันกลับมาผมจึงกางเล็บข่วนใบหน้าของอี้ฟานด้วยความโกรธและน้อยใจอย่างลืมตัว ทำให้ชายหนุ่มคลายอ้อมกอดสบโอกาศให้ผมกระโดดหนีไปในความมืดโดยที่ไม่หันกลับไปมอง...





โอยยยย.... หิวข้าวจังเลย
ผมนอนฟุบอยู่บนพื้นหญ้านุ่มๆซึ่งเป็นสวนสาธารณะอยู่ห่างจากบ้านไปไม่ไกลนักหลังจากที่ผมทำร้ายอี้ฟานผมก็ไม่กล้ากลับไปสู้หน้าได้อีกแล้ว ผมกลัว... กลัวว่าอี้ฟานจะเกลียดเพราะเขาเป็นเจ้านายเมื่อสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงไม่เชื่องอย่างผมทำร้ายเจ้านายมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะโดนเกลียด
"ดูสิฉันเห็นใครนอนหมดแรงอยู่ตรงนี้ด้วย"
           เฮ้อ! จะมีสักครั้งไหมที่ผมจะได้อยู่อย่างความสุขเหมือนแมวปกติบ้าง...
มันก็ไม่แปลกนี่เนอะถ้าแมวอยากผมจะมีคู่อริไม่มีสิที่ว่าแปลก...
                 "ยุ่ง!" ผมหันไปแหวเสียงใส่ก่อนจะหันกลับมานอนฟุบหน้าอยู่ตามเดิมใต้ต้นไม้สูงใหญ่หลังพุ่มไม้ข้างทางซึ่งใครผ่านไปมารับลองว่าไม่มีใครเห็น...  อยากจะพักผ่อนแต่กลับมีมารมาคอยกวนประสาท เฮ้อ! ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่มีใครเห็นแล้วเชียว
"นี่ฉันถามดีๆนะเนี่ย" น้ำเสียงกวนๆถามผมพร้อมกับเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าพลางแสยะยิ้มแต่ผมไม่มีอารมณ์ที่จะทะเลาะกับเจ้านี่หรอกนะตอนนี้ผมอ่ะหิวสุดๆเลยล่ะ
"น่าแปลกนะที่เจ้านายแกปล่อยให้แกออกมาเดินเล่นข้างนอกไกลขนาดนี้"
              "..."
"ไม่คุยก็ตามใจฉันก็ขี้เกียจมาทะเลาะกับเด็กอย่างแก"
ผมชำเลืองตามองเจ้าแมวร่างเปรียวสีขาวที่เดินจากไปก่อนจะกลับมานอนหลับตาดังเดิมด้วยความหิว ถ้าผมหิวมากๆผมต้องนอนเพื่อไม่ให้เสียพลังงานสินะ...
ฮึก! คิดถึงอี้ฟานจัง...

"ทำไมแกยังอยู่ตรงนี้อีก"  ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเงยหน้ามองต้นเสียงที่ถามผมและแน่นอนว่าเป็นเจ้าแมวจรจัดลู่หานที่ยืนค้ำหัวผมอยู่ ผมจึงลุกขึ้นนั่งพลางบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้านและจัดการอาบน้ำโดยที่ไม่สนใจเจ้าแมวที่นั่งมองผมอยู่
"นี่อย่าบอกนะว่าโดนทิ้งจริงๆ" ผมชะงักกึกราวกับคำพูดเหมือนจี้ใจดำ เงยหน้ามองเจ้าแมวสู่รู้ที่มองผมนิ่งผมเชิดหน้าไปทางอื่นไม่อยากเสวนาด้วยถ้าเจ้านี่รู้มีหวังต้องหัวเราะเยาะผมแน่ๆ
"สงสัยจะจริง" น้ำเสียงเหน็บแนมพลางหลิ่วตามองจนน่าหงุดหงิด
                "อย่ามายุ่งกับฉันได้ไหม" ทางเดียวที่จะให้เจ้านี่เลิกยุ่งกับผมๆคงต้องนั่งหันหลังหนีอย่างเดียว ได้ยินเสียงถอนลมหายใจของลู่หานที่ทอดยาวก่อนจะเดินผ่านพุ่มไม้ออกไปเสียงดังซวบ
ทันทีที่ผมอยู่ตามลำพังอาการห่อเหี่ยวในหัวใจของผมมันก็เริ่มกำเริบอีกแล้ว ใบหูค่อยๆตกลงพลางทำสีหน้าเศร้าความหิวไม่เทียบเท่ากับความโหยหาไออุ่นที่กอดผมอยู่ทุกๆคืน
"ฮึก! ฮึก! ฮือออ... อี้ฟานบ้าอี้ฟานใจร้าย" ....

ความวิเวกวังเวงทำให้ผมรู้สึกหวาดผวา...  เจ้าแมวสีดำขลับกำลังนั่งคดคู่อยู่ใต้ต้นไม้สูงอยู่ที่เดิมดวงตากลมสุกใสกวาดสายตาไปรอบๆบริเวณด้วยความหวาดระแวง ทั้งๆที่เมื่อวานยังผ่านมาได้แท้ๆแต่วันนี้มันแตกต่างจากเมื่อวานเมื่อผมไม่ได้นั่งร้องไห้ มันทำให้ผมรู้ว่าพอตกกลางคืนที่นี่จะมีเสียงที่น่ากลัวดังกรอบแกรบแว่วๆมาใกล้ตัวอยู่ตลอดเลยล่ะ...
"จื่อเทา เมี้ยวๆๆๆ จื่อเทา"  ได้ยินเสียงแว่วของคนที่คุ้นเคยทำให้ผมหู่ผึ่งด้วยอาการดีใจเสียงเรียกที่ดูกังวลกำลังร้องเรียกหาผมจากข้างนอกนั่น ผมรีบลุกขึ้นและฉีกยิ้มด้วยความดีใจ อี้ฟานมารับผมแล้ว!
          "อี้ฟาน พอเถอะกลับบ้านดีกว่านี่มันก็ดึกมากแล้วนะ"  
"ไม่ อี้ฟานจะหาจื่อเทาให้เจอก่อน จื่อเทาต้องคิดว่าอี้ฟานโกรธแน่ๆ"
          "เฮ้อ! อะไรกันอี้ฟานยังไงจื่อเทาก็เป็นแมวนะ แมวย่อมมีสันชาติญาณของมันไม่มีแมวตัวไหนหรอกที่จะไม่กลับบ้านเพราะความหิว"
"นี่มันก็สองวันแล้วนะที่จื่อเทาไม่ได้กินอะไรน่ะ!"
              "ถ้างั้นก็เลือกเอาระหว่างแมวกับคนที่ให้ได้ทุกอย่างน่ะอี้ฟาน!"
"อี้ชิงเดี๋ยว!"
ผมมองชายหนุ่มทั้งสองคนที่วิ่งออกไปจากบริเวณ ไม่ทันที่ผมจะก้าวพ้นออกมาจากพุ่มหญ้าขาที่กำลังจะก้าวออกไปชักกลับมาในทันทีทอดมองแผ่นหลังของอี้ฟานที่วิ่งตามคนรักของเขาไปด้วยความเจ็บปวด...
สุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นย่อมต้องสำคัญกว่าแมวจรจัดอย่างผม...



"อี้ฟานนายควรกินอะไรบ้างนะตั้งแต่จื่อเทาหายไปนายก็ไม่ได้กินอะไรเลย" ผมเงยหน้ามองคนรักของผมที่แสดงสีหน้าเป็นห่วง... บอกตามตรงผมไม่อยากกินอะไรเลยตั้งแต่แมวที่รักของผมหายไป
               "ฉันไม่หิว" ตอบปฏิเสธพลางปัดมือของอี้ชิงออกจากไหล่ที่กำลังกอบกุม สีหน้าของความไม่พอใจฉายแววออกมาจนผู้รู้สึกได้ ถึงผมจะรู้ว่าหากทำแบบนี้คนรักผมจะโกรธแต่ผมกลับควบคุมตัวเองไม่ได้ยิ่งรู้ตัวว่าไม่อาจหาจื่อเทาพบใจผมมันก็ยิ่งร้อนลุ่มเหมือนไฟเผา ได้ยินเสียงถอนลมหายใจเฮือกของคนข้างๆผมมองตามแผ่นหลังที่เก็บของๆเขาตรียมออกไปจากห้องของผม
"ฉันเบื่อนายจริงๆเลยอี้ฟานตั้งแต่มีเจ้าแมวนั่นเข้ามา นายก็เอาแต่สนใจมันมากกว่าฉัน"
              "อย่าเรียกจื่อเทาว่ามันนะ"
"ก็แล้วทำไมจะเรียกไม่ได้มันก็แค่สัตว์เลี้ยง"
             "แต่จื่อเทาไม่ใช่สัตว์เลี้ยงจื่อเทาคือครอบครัวของฉัน!"
"เหอะ! ถึงยังไงแมวก็เป็นแมวตายเร็วกว่ามนุษย์เป็นสิบเท่า พูดตามตรงนะอี้ฟานฉันจะทักท้วงนายตั้งแต่ตอนที่นายเอาแมวในลังข้างถนนนั่นมาเลี้ยงอยู่แล้วนายคงทำใจไม่ได้หรอกถ้าเกิดแมวที่นายรักตายไปต่อหน้าต่อตา ฉันว่านะป่านนี้คงโดนรถชนตายไปแล้วล่ะ!"

เพี๊ยะ!
"อี้ฟานนายตบฉัน!"
               "เราเลิกกันเถอะอี้ชิง"  ผมทอดมองอี้ชิงดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาจนผมใจสั่นร่างบางเบะปากที่สั่นเทามองผมด้วยความโกรธก่อนจะหันหลังออกไปจากห้องนอนของผมโดยที่ไม่หันกลับมามองอีกเลย...
จบแล้วมันจบแล้วผม... ผมไม่เหลือใครแล้วล่ะ
หันไปมองที่นอนที่ว่างเปล่าของเจ้าลูกแมวน้อย ดวงตาสีดำขลับคอยจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลาในยามที่ผมคุยด้วยเจ้าแมวจะร้องเมี้ยวๆราวกับว่าจื่อเทากำลังตอบกลับ มันทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา จื่อเทาคือแมวที่วิเศษผมยอมรับเลยว่าดวงตาสุกใสดวงนั้นทำให้ผมมีความสุขมากเสียกว่าอี้ชิงที่ให้ได้เพียงแค่ร่างกาย...
          ผมหันมองออกไปนอกหน้าต่างซึ่งตอนนี้ฝนกำลังโปรยปรายเป็นปอยฝนบางๆ แต่นั่นกลับทำให้ผมร้อนรนมากกว่าเดิมและต้องรีบลุกขึ้นไปหยิบร่มเดินออกไปจากห้อง เพื่อตามหาจื่อเทาซึ่งป่านนี้คงจะต้องนอนหนาวสั่นอยู่ที่ไหนซักแห่งแน่ๆ...


          ฝนตกแล้ว และผมก็หิวมากด้วยเสียงร้องโครกครากของท้องทำให้ผมรู้สึกปวดจนทนไม่ไหวรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะหมดแรงและความเย็นความเปียกชื้นก็กำลังทำให้ผมหนาวสั่นเสียงฟ้าร้องที่ดูน่ากลัวนั่นทำให้ผมแทบเป็นบ้า ทำได้แค่เพียงหมอบลงและยกมือปิดหูเอาไว้เท่านั้น
"มานี่สิเจ้าโง่!" ผมได้ยินเสียงของลู่หานที่เรียกแว่วมา ผมจึงวิ่งโผล่ออกไปดูทางด้านนอกจึงเห็นแสงสีขาวของดวงตาคู่สวยกำลังสะท้อนแสงมองออกมาจากท่อตรงสนามเด็กเล่นขนาดเล็ก

เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าทำให้ผมต้องหมอบลง
"วิ่งมาเร็วๆสิเดี๋ยวก็เปียกมากกว่านี้" เสียงเรียกที่เรียกอย่างไม่สบอารมณ์ตะโกนเรียกผมอีกครั้งผมจึงตัดสินใจวิ่งไปทางลู่หานอย่างไม่คิดชีวิต  อา... ผมนึกว่าผมจะตายแล้วซะอีก
"เอานี่" ผมมองปลาแห้งตัวโตตาเป็นประกายเมื่อเจ้าแมวสีขาวคาบมาส่งให้ผมความหิวทำให้ผมไม่ลังเลเลยว่าจะไม่กินมัน ก้มลงเล็มปลาตัวนั้นอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้เงยหน้ามองลู่หานอย่างไม่ไว้ใจนัก
"กินไปขนาดนี้แล้วแกยังจะระแวงฉันอีกหรอ"
            "เปล่าซักหน่อย" ผมเถียงกลับก่อนจะก้มลงกินปลาอีกครั้งความหิวทำให้ผมไม่อาจหยุดตัวเองได้จนกระทั้งผมซัดมันจนไม่มีเหลือ ลิ้นสากเลียไปตากกลีบปากที่มีเนื้อปลาติดอยู่เล็กน้อยความอิ่มทำให้ผมอารมณ์ดีจนยิ้มตาหยี
"ตัวแค่นี้ริอาจหนีออกจากบ้านแย่จริงๆเลยนะ"  ผมชะงักเล็กน้อยเงยหน้ามองแมวสีขาวที่นั่งทอดมองออกไปข้างนอกท่อนั่น หรือว่าเจ้าแมวจรจัดนี่จะรู้แล้ว
           "นายรู้ได้ไง"
"หึ! ฉันเร่ร่อนมาตั้งปีนะ อีกอย่างฉันเห็นเจ้านายแกตามหาแก"
          "จื่อเทามีชื่อนะทำไมต้องเรียกแกด้วย" แล้วผมก็โดนเจ้าแมวนี่กดคอจนติดกับพื้นทำให้ผมต้องรีบดึงมือของลู่หานออกพร้อมๆกับตะกายตัวลุกขึ้นนั่งมองลู่หานอย่างเอาเรื่อง
            "แล้วทำไมลู่หานไม่หาเจ้านายใหม่ล่ะ" ผมถามด้วยน้ำเสียงเคืองๆพลางปัดฝุ่นที่อยู่ตามเนื้อตัวออกไป เห็นแววตาที่ดูเศร้าของลู่หานอยู่ครู่หนึ่งแต่เมื่อผมมองเขาตรงๆกลับเห็นแต่ความเย่อหยิ่งอยู่ในตัว
"แมวที่โตอย่างฉันใครจะสนใจมนุษย์พอเลี้ยงไปนานๆพอไม่น่ารักก็ทิ้งไว้อย่างไม่ใยดีประสบการณ์ที่เจ็บปวดนั่นแค่ครั้งเดียวก็เกินทน"
            ผมทอดมองลู่หานที่นั่งมองออกไปข้างนอกซึ่งฝนกำลังโปรยปรายลงมาบางๆมากแล้ว  เมื่อพูดถึงเรื่องนี้มันพาลให้ผมรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน อารมณ์ของลู่หานในตอนนี้ผมเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง
"แล้วแกล่ะทำไมถึงหนีมา" ลู่หานหันมาถามผมบ้างซึ่งคำถามมันก็จี้ใจผมมากจริงๆ ดวงตากลมสวยหันมามองผมตาแป๋วเพื่อรับฟังเรื่องของผมบ้างทำให้ผมไม่อาจจะปฏิเสธที่จะพูดได้เลย
             "จื่อเทาเผลอทำร้ายอี้ฟานเข้าน่ะ"  พอตอบกลับไปกลับได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นจมูกของเจ้าแมวที่อยู่ตรงหน้าทำให้ผมรู้สึกฉุนที่ถูกหัวเราะเยาะและมองลู่หานอย่างเอาเรื่อง
              "มันน่าขำตรงไหน" พูดด้วยน้ำเสียงที่กระเง้ากระงอด
"เปล๊า! ก็แค่มันไร้สาระ" ผมยิ่งแสดงสีหน้าง้ำงอยิ่งกว่าเดิมแต่เจ้าแมวตัวนี้กลับหัวเราะใส่ผม
"เอาน่าไหนๆก็โดนทิ้งแล้วเอาแบบนี้ก็แล้วกันเดี๋ยวฉันจะพานายเรียนรู้โลกกว้างเอง" วงแขนของลู่หานโอบรอบคอผมพลางตบไหล่ปักๆ ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมคู่นั้นซึ่งกำลังฉายแววสุกใสก่อนจะเผยอยิ้มออกมาพลางพยักหน้าหงึกหงักตอบ ลู่หานล้มตัวลงนอนแผ่เอนหลังพิงเข้ากับท่อทำให้ผมนึกถึงตาแก่พุงพลุ้ยของพวกมนุษย์ที่อยู่ในหนังแต่ทว่าลู่หานนั้นหุ่นดีมากจนผมเองก็เคยอิจฉาจ้องแมวสีขาวที่เคยเป็นคู่อริอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอนหลังนอนอย่างลู่หานบ้าง
              "ว่าแต่ลู่หานเล่าให้ฟังหน่อยเรื่องของลู่หานน่ะ" ผมถามด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ดวงตาสีเงินหันมามองผมพลางแสยะยิ้ม
"ได้สิ รับรองถ้านายฟังแล้วต้องอยากออกไปวิ่งเล่นจนไม่อยากกลับไปหาเจ้ามนุษย์นั่นเลยล่ะ!"  ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มด้วยความตื่นเต้นดวงตาเบิกตาโพลงตั้งหน้าตั้งตาฟังเรื่องวีรกรรมของลู่หานที่ประสบพบมาด้วยความรู้สึกสนุก และใช้เวลาเกือบทั้งคืนที่เรานั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดต่อกัน...



สี่วันแล้วที่จื่อเทาหายไป...
กระดาษสีขาวรูปลูกแมวตัวน้อยถูกแปะไปทั่วบริเวณผมหวังว่าจื่อเทาอาจจะยังอยู่ในละแวกนี้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหนทางสุดท้ายที่ผมจะทำได้แต่ก็ไม่มีวันลดละเพื่อที่จะตามหา แน่นอนว่าผมไม่ได้เข้าบริษัทมาแล้วสี่วันและให้เลขาของผมจัดการงานให้ตลอดรวมไปถึงอี้ชิงที่ผมไม่ได้ติดต่อหาเขาเลยหลังจากในวันนั้นในหัวของผมมีแต่จื่อเทาเต็มไปหมด
"คุณป้าถ้าเจอก็ช่วยผมหน่อยนะครับ" ผมอ้อนวอนแม่ค้าและเพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมาเพื่อขอร้องให้เขาช่วยผมพลางแจกกระดาษสีขาวรูปลูกแมวหน้าตาน่ารักให้  พวกเขาเพียงแค่รับและก็เดินจากไปเท่านั้นทำให้ผมต้องถอนลมหายใจเฮือกๆออกมาด้วยความเหนื่อยกายเหนื่อยใจไม่รู้ว่าจื่อเทาจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้และผมพาวนาว่า  ขอให้ลูกแมวที่ผมรักปลอดภัย...



"ยังคิดถึงเจ้านายอยู่อีกหรอจื่อเทา" ผมหันไปมองลู่หานที่กระโดดผลุงขึ้นมาบนท่อซึ่งผมกำลังนั่งแหงนมองดูดาวอยู่ก่อนจะหันกลับไปยังท้องฟ้าดังเดิม
"เฮ้อ! ฉันเข้าใจว่าการตัดใจมันยากแต่ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เห็นจะตามหานายแล้วนายควรร่าเริงขึ้นนะไม่ใช่แค่ร่าเริงแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น"  ผมพยักหน้าตอบลู่หานส่งๆเมื่อคำบ่นทำให้ผมรู้สึกรำคาญ ถึงแม้ว่ากลางวันลู่หานจะทำให้ผมคลายความเศร้าได้ แต่พอตกกลางคืนในยามที่ผมแหงนมองดูดาวผมกลับคิดถึงแต่ใบหน้าของคริสลอยวนอยู่ในหัวของผม
"เอางี้ดีกว่า ฉันเห็นพวกมนุษย์จัดเทศกาลอะไรซักอย่างทางฝั่งตรงข้ามนั่นล่ะ น่าสนุกไม่น้อยเลยเราไปดูกันดีกว่าเผื่อจะมีขนมให้กินบ้าง"  ผมหันไปมองลู่หานหูผึ่งตาเป็นประกาย
             "จริงหรอไปสิไป" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง
"ไปก็ลงมาสิจะรออะไร!"  ผมทำท่าจะลงไปยังข้างล่างตามลู่หานเพื่อที่จะไปเล่นอะไรที่มันสนุกตามคำชักชวนของลู่หานแต่ทว่าสายตาของผมกลับหันสายตาไปบนท้องฟ้าและพบเข้ากับดาวตก
             "ลุ่หานดูสิดาวตกล่ะ!" ผมชี้ให้ลู่หานดูตาเป็นประกาย
"แล้วไง ก็เเค่ดวงเดียวน่าแปลกตรงไหน" ผมเบ้ปากให้กับลู่หานก่อนจะพนมมืออธิฐานต่อดวงดาวก่อนที่มันหายลับตาไป
           ผมขอให้อี้ฟานมีความสุขได้อยู่กับคนที่รักไปตลอดกาล แล้วก็... ขอให้ลู่หานได้พบกับคนที่รักเขาจริงๆ
"เจ้าบ้าเร็วๆสิเดี๋ยวรถจะเยอะแล้วข้ามลำบากนะ"  ผมลดมือลง เมื่อลืมตาขึ้นดาวดวงนั้นก็หายไปเสียแล้วหันไปมองลู่หานที่กวักมือเรียกผมให้ลงตามเขาไปโดยเร็ว...


             ผมเดินทอดน่องไปตามท้องถนนที่มีแสงไฟหลากสี ฝั่งตรงข้ามมีงานเทศกาลเล็กๆดูน่าสนใจแต่ผมกลับไม่มีอารมณ์ที่จะเดินไปดูในตอนนี้ดวงตาสอดส่ายมองหาเจ้าลูกแมวตัวน้อยของผมด้วยสภาพที่เหนื่อยเพราะการพักผ่อนน้อยของผม
"โอยแย่จริงๆเลยมีคนขับรถชนแมวล่ะทำให้เกิดอุบัติเหตุดูท่าจะเจ็บหนักทั้งคนทั้งแมวเลยล่ะ"
"นั่นสิสงสารทั้งคนทั้งแมวนั่นแหละ แต่ที่เห็นจะน่าสงสารที่สุดคงเป็นลูกแมวที่นั่งร้องเพราะเพื่อนมันถูกชนน่ะนะ" 
          "เดี๋ยวครับเมื่อกี้พวกคุณพูดว่ามีแมวถูกรถชนหรอ" ผมรีบทักวัยรุ่นทั้งสองคนที่เดินสวนทางกับผม พวกเธอหันมาพลางทำสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าตอบ
"ใช่แล้วล่ะค่ะ น่าสงสารเจ้าแมวสองตัวนั้น"
              "ช่วยบอกผมได้ไหมครับว่ารถชนกันที่ไหน"
ผมรีบวิ่งไปที่จุดเกิดเหตุในทันทีซึ่งมีคนมุงดูอยู่หลายคนอยู่ ณ จุดนั้น คนบาดเจ็บถูกหามขึ้นรถพยาบาลแต่ทว่าคนที่มุงดูน่าจะเป็นเสียงของลูกแมวที่ร้องแง้วๆดูเจ็บปวดนี่มากกว่า
"จื่อเทา!" แทบไม่ต้องมองให้ถ้วนถี่ว่าใช่ลูกแมวผมหรือไม่เพียงแค่เห็นผมก็จำได้ในทันที รีบวิ่งเข้าไปกอดร่างของลูกแมวที่ผมรักด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง และก้มลงมองเจ้าแมวสีขาวซึ่งนอนแน่นิ่งหายใจรวยริน...

แง.... อี้ฟานลู่หานล่ะ ลู่หานถูกรถชนฮือๆๆๆ
ผมมองลู่หานที่นอนจมกองเลือดอยู่กับที่ด้วยความรู้สึกผิด ถ้าลู่หานไม่ช่วยผมล่ะก็ผมคงตายไปแล้วแต่นั่นก็ทำให้เจ้าแมวสีขาวตัวนี้โดนรถชนแทนผม
"ไม่เป็นไรนะเด็กดีเดี๋ยวอี้ฟานจะพาเรากลับบ้าน"
จื่อเทาไม่กลับจื่อเทาจะดูลู่หาน ลู่หานไม่เป็นอะไรนะ...
ผมร้องไห้ออกมาไม่ขาดสายสบตาลู่หานที่นอนมองผมนิ่ง ปากเล็กๆนั่นกำลังขยับขึ้นลงยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากเหลือเกิน
"เจ้าโง่... รีบกลับบ้านได้แล้ว" ทันทีที่พูดจบลู่หานก็หลับตาลงแน่นิ่งไปในทันที ไหล่แกร่งของอี้ฟานที่กำลังโอบอุ้มผมอยู่เป็นสิ่งเดียวที่ผมจะใช้มันเป็นพักพิงและร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ เพราะผม เพราะผม เพราะผม! ทำให้ลู่หานต้องตาย...

จื่อเทาของผมกำลังเศร้า...
ผ้าขนหนูผืนหนาเช็ดไปตามกลุ่มขนนิ่มของเจ้าลูกแมวน้อยหลังจากที่ผมพาเขาเข้าไปอาบน้ำ ท่าทางที่นิ่งสงบนั่นทำให้ผมรู้สึกแย่ก่อนจะก้มใบหน้าสบตาของจื่อเทาที่หันสายตาหนี
           ลมหายใจอุ่นๆทอดยาวออกมาด้วยความลำบากใจผมไม่อยากเห็นจื่อเทาเป็นแบบนี้เลยให้ตายสิ ผมแหงนมองนาฬิกาซึ่งตอนนี้เกือบจะเที่ยงคืนแล้วและหันกลับมายิ้มให้กับจื่อเทาที่หงอยเหงา



"แมวตัวนั้นต้องปลอดภัย ไม่เอาน่าจื่อเทาเพื่อนของจื่อเทาถึงมือหมอแล้ว" ลูกแมวที่น่ารักเงยหน้าขึ้นมองผมเห็นน้ำปริ่มอยู่ที่ขนตาทำให้ผมรู้สึกทุกข์ใจ จื่อเทาคือแมวที่แตกต่างไปจากแมวบ้านธรรมดาลูกแมวตัวนี้ทำให้ผมคิดว่าจื่อเทาคือมนุษย์จริงๆ



"นอนดีกว่านะ" ผมระบายยิ้มบางๆอย่างอ่อนโยนก่อนจะประทับจูบไปบนหน้าผากนิ่ม จื่อเทาหลับตาพลางใช้หัวของเขาคลอเคลียอยู่ที่ใบหน้าของผมความคิดถึงทำให้เราต่างก็โหยหาไม่ต่างกัน ผมล้มตัวลงนอนเอื้อมวงแขนอุ้มจื่อเทาเข้ามากอดไว้ ยกยิ้มให้กับลูกแมวที่เงยหน้ามองตาปริบๆ
ถ้าจื่อเทาเป็นคนผมคงจะรู้สึกดีใจมากๆเลยล่ะ และผมเองก็กำลังจะบ้าอยู่เหมือนกันเมื่อผมกำลังอยากให้แมวกลายเป็นคนจริงๆ...


เสียงนกร้องที่น่าหนวกหูทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจก่อนบิดกายไปมาอย่างเกียจคร้านยกมือหลวมๆขึ้นขยี้ตาไปมาพลางแลบลิ้นจะเลียมือเพื่อล้างหน้าแต่ทว่ามือของผมกลับกลายเป็นมือของมนุษย์จนต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
            นี่มันอะไรกันเนี่ย! "อะ "  ผมรีบเอามือปิดปากเมื่อเสียงที่เปล่งออกมามันฟังดูเพี้ยนผิดหูก่อนจะสำรวจตัวของผมเองซึ่งไร้เสื้อผ้าใดๆปกปิด นี่จื่อเทากำลังฝันไปจริงๆใช่ไหม!


"อืมจื่อเทาอย่าดิ้นได้ไหมพ่อยังอยากนอนอยู่นะ" อี้ฟานขยับตัวไปมาทำให้ผมรู้สึกตกใจไม่น้อยวงแขนแกร่งควานหาตัวผมเหมือนอย่างที่ชอบทำผมจึงล้มตัวลงนอนไปที่แขนแกร่ง วงแขนกอดกระชับตัวผมแน่นพลางกดจมูกสูดกลิ่นอายจากกลุ่มผมนิ่มโดยที่ไม่ลืมตามอง


      ดวงตากลมสุกใสจ้องวงหน้าของคนที่กำลังหลับอยู่ด้วยความตื่นเต้นในใจ หรือสิ่งที่จื่อเทากำลังเป็นอยู่นี่คือความฝันกันล่ะแต่ความฝันของเจ้าลูกแมวตัวน้อยช่างเป็นฝันที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ นิ้วเรียวยกขึ้นแตะสัมผัสไปที่จมูกของอี้ฟาน ราวกับตั้งใจแหย่ให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมาเสียที เพราะจื่อเทากำลังหิวจนท้องร้องครวญครางออกมาแล้ว

"จื่อเทา... อย่าแกล้งน่า" น้ำเสียงทุ้มบ่นงึมงำในลำคอทำให้ผมถึงกับกลั้นขำมือหนาคว้ามือของผมไว้ด้วยความรำคาญ สีหน้าที่หลับสบายกำลังขมวดคิ้วยุ่งจนผูกปมพลางคลำมาที่มือเรียวราวกับสำรวจก่อนจะลืมตาขึ้นพรึบ

"เฮ้ย!" ความตกใจที่เห็นคนแปลกหน้าทำให้อี้ฟานถึงกับลุกพรวดพลางทำสีหนาตกใจที่เห็นผม
        
          "อี้ฟานนนน จื่อเทาหิวแล้ว"  น้ำเสียงออดอ้อนพูดพลางคลานเข้าไปหา ร่างสูงแสดงสีหน้าตื่นตกใจอย่างเปิดเผย  ผมใช้หัวถูกไปที่หน้าอกของอี้ฟานไปมาอย่างที่ชอบทำและช้อนดวงตาทำคิ้วตกยกยิ้มออกมาบางๆ เพื่อต้องการเห็นรอยยิ้มของเจ้านายแต่ทว่าอี้ฟานกลับมองผมราวกับเห็นผี



"นายเป็นใครละ  แล้วจื่อเทา จื่อเทาหายไปไหน"


        "อ่ะ!" ผมถูกผลักซะล้มปุกอยู่บนที่นอนนุ่มคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจนักอี้ฟานรีบลุกขึ้นพรวดและถอยห่างผมที่นั่งคุกเข่าอยู่


"แล้วทำไมถึงเปลือยแบบนี้!" ผมเลิกคิ้วและยกแขนสำรวจตัวเอง มันแปลกตรงไหนหรอปกติผมก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่แล้วนี่ ก่อนจะหันไปทางอี้ฟานและยิ้มให้จนตาหยีพูดย้ำในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา


             "จื่อเทาหิว" แล้วก็เอียงคอทำท่าน่ารักให้อี้ฟานเอ็นดูก่อนจะทำคิ้วตกเมื่อเจ้านายยังแสดงอาการตกใจอยู่


"จื่อเทางั้นหรอ" ผมพยักหน้าอีกครั้งพลางยิ้ม ก่อนจะขยับตัวมองพื้นห้องในขนะที่ผมกำลังห้อยขาใช้ฝ่าเท้าของมนุษย์แตะไปที่พื้น ความเย็นทำให้ผมยกยิ้มก่อนที่จะลุกพรวดขึ้นแต่ทว่าความอ่อนปวกเปียกของผมทำให้ผมเซไปข้างหน้าเกือบหน้าคะมำแต่ก็ได้รับอ้อมแขนแกร่งช่วยพยุงไว้ ผมช้อนดวงตาขึ้นพลางยกยิ้มให้อี้ฟานจนตาหยี
        
            "จื่อเทาหิว" พูดย้ำอีกครั้งตามนิสัย แต่อี้ฟานกลับเบิกตาโพลงแล้วใบหน้าก็แดงจัดนี่อี้ฟานสบายหรอ ต้องใช่แน่ๆเวลาที่มนุษย์ไม่สบายเขาทำยังไงกันนะ...
   ใช่แล้วล่ะยกมือขึ้นจับหน้าผากเพื่อวัดไข้...


"จะ จื่อเทา" น้ำเสียงสั่นเอ่ยเรียกผมที่กำลังมองอี้ฟานด้วยความเป็นห่วงพลางจับหน้าผากของอี้ฟานเอาไว้...
            ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลยนี่อี้ฟานก็ตัวอุ่นอยู่เหมือนเดิมงืม... ดีใจจังจื่อเทาตัวเกือบจะเท่าอี้ฟานแล้วล่ะ!
 

          ผมรับแรงน้ำหนักของร่างบางที่กระโดดกอดผมเอาไว้แน่นด้วยหัวใจที่เต้นแรงและรัว รู้สึกเหมือนกับว่าผมกำลังฝันไป เมื่อเด็กคนนี้เรียกตัวเองว่าจื่อเทาดวงตาสีดำขลับคู่สวยกำลังมองผมด้วยแววตาที่ออดอ้อนความรู้สึกของผมมันบอกว่าเด็กคนนี้ไม่ได้โกหกมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น


           ร่างกายที่เปล่าเปลือยสัดส่วนที่ได้รูปซึ่งผมมักจะมองวนไปที่หัวนมสีชมพูนั่นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ผมเกือบตบะแตกและรู้สึกหน้าเห่อร้อนไปถึงใบหู นี่ผมเป็นอะไรผมกำลังเกิดอารมณ์เพราะลูกแมวที่กลายร่างเป็นผู้ชายร่างสูงนี่น่ะหรอ!


      "อี้ฟาน"
น้ำเสียงกระเส่าเรียกพลางคลอเคลียไปตามแผงอกของผมอย่างที่เจ้าลูกแมวนี่ชอบทำถ้าหากนับเดือนของลูกแมวจื่อเทาก็คงจะประมาณอายุ15สินะ ทันทีที่สบตาของจื่อเทาเส้นเลือดฝอยในโพรงจมูกนั้นแทบจะแตก กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูที่ผมอาบให้จื่อเทาเมื่อคืนนี้ลอยเตะจมูกยิ่งทำให้ผมอดใจไม่ไหว...

                  "อือ" จมูกโด่งๆก้มลงคลอเคลียไปตามซอกคอของเด็กหนุ่ม ยิ่งได้ยินเสียงครางของจื่อเทายิ่งทำให้ผมรู้สึกชอบและอยากทำมากกว่านี้ค่อยๆดันร่างบางไปบนที่นอนและโน้มตัวลงทาบทับไว้ แววตาที่ใสซื่อทำให้ผมรู้สึกนึกขำแต่ทว่า... จื่อเทาดูยั่วยวนมากจริงๆ


                     "อี้ฟาน... จื่อเทา รัก" ผมเบิกตาขึ้นเมื่อได้ฟังคำที่เอ่ยออกมาแปร่งๆเสียงงุ้งงิ้งอยู่ในลำคอของจื่อเทา ใบหน้าคมหวานหันหลบสายตาของผมด้วยความเขินเเละเริ่มแดงระเรื่อออกมาอย่าเปิดเผย อดไม่ได้ที่ผมจะยกยิ้มจนแก้มแทบปริ จมูกกดไปที่พวงแก้มนิ่มก่อนจะพูดกระซิบที่ข้างหูของเจ้าลูกแมวจอมดื้อขี้อ้อนคนนี้
"อี้ฟานก็รักจื่อเทามากนะ" เพียงแค่พูดไปแค่นั้นเจ้าแมวแสนดื้อก็อายม้วนจนน่ารักมือเรียวจับกระชับเสื้อของผมด้วยความเขินอาย


"แล้วจื่อเทาพอจะรู้ไหมว่าคนที่เขารักกันต้องทำยังไง"  จื่อเทาหันมาสบตาของผมแววตาของจื่อเทาไหวระริกพลางยกยิ้มออกมาจนตาหยีก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่ผมไม่อยากจะเชื่อหูเท่าไรนักว่าลูกแมวจะคิดแบบนี้


                    "รู้สิก็ทำเหมือนกับที่อี้ฟานทำกับอี้ชิงไง" เป็นคำตอบของจื่อเทาทำให้ผมรู้สึกอายไม่น้อยจนต้องยกมือหนาขึ้นปิดหน้าก่อนจะลูบลงเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์ที่กำลังครุกรุ่น


                    "อี้ฟาน" น้ำเสียงหวานเอ่ยเรียกย้ำยิ่งทำให้สติของผมนั้นเตลิดเปิดเปิงเป็นเพียงแค่แมวธรรมดายังทำให้ผมหลงรักได้แต่นี่จื่อเทาเป็นคน แล้วคนอย่างผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากด้วยสิ !

            สบดวงตาคมพลางยกยิ้มกริ่มใบหน้าที่ดูซื่อๆนั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวก่อนจะก้มลงบดเบียดริมฝีปากรูปกระจับชวนมองของจื่อเทา วงแขนของลูกแมว... ไม่สิวงแขนของเด็กหนุ่มกำลังโอบรอบคอผมอย่างช้าๆและหลับตาพริ้มทำให้เห็นแพขนตาที่น่าจับตามอง สัมผัสที่นุ่มลิ้นราวกับปุยนุ่นทำให้ผมไม่อาจควบคุมอารมณ์ภายในตัวได้ มือหนาสัมผัสไปตามผิวเนียนลื่นไม่ต่างกับขนแมวที่ผมสัมผัสอยู่ทุกวันและคุ้นเคยกับมันดี
         
              "อืม" เสียงครางหวานในลำคอยิ่งทำให้ความอยากของผมเพิ่มขึ้นทวี ผละริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากหวานก่อนจะก้มลงชอนไชไปที่ลำคอระหงส์พลางลูบไล้ผิวกายของจื่อเทาเพื่อสำรวจ   ร่างกายที่ผมกำลังลูบคลำตอบสนองเป็นอย่างดี สัมผัสได้ถึงแก่นกายที่แข็งขืน ผมยิ่มกริ่มด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์ก่อนจะเค้นคลึงมันผะเเผ่วแต่ก็เรียกเสียงหวานแหบพร่าให้ร้องครางออกมาชวนน่าฟัง



             "งืม อี้ฟาน จะ จื่อเทารู้สึกแปลกๆ"  ผมโน้มใบหน้าบดเบียดกลีบปากรูปกระจับอีกครั้งก่อนจะผละออกมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่น่าเกะกะของตัวเองออก เข้าทาบทับตัวของจื่อเทาอีกครั้งหนึ่ง ยิ่งผิวกายแนบเนื้อนุ่มนิ่มยิ่งทำให้สติของผมแทบกระเจิงและผมเองก็รู้ว่าจื่อเทาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน มือเรียวของเด็กหนุ่มสัมผัสมาที่ใบหน้าและโอบอุ้มพลางช้อนดวงตาขึ้นมองราวกับยั่วยวนก่อนจะโน้มใบหน้าขึ้นจูบกับผมผะแผ่ว


"หึ! เจ้าเด็กขี้อ้อน"  
  มือหนาตะปบไปที่เอวคอดได้รูปตัววีร่างกายของจื่อเทามันช่างน่าหลงไหลจนไม่อาจห้ามใจอยู่ เจ้าแมวแสนขี้อ้อนมองผมตาปลือและหยาดเยิ้มค่อยๆยกยิ้มยั่วยวนพลางยกขาขึ้นเกี่ยวเอวของผมไว้


                "อี้ฟานมาสิ"
เฮือก!!!
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเจอลูกยั่วที่ไม่รู้ว่าจื่อเทาเอามาจากไหน ก่อนจะตัดสินใจสั่งสอนเจ้าแมวตัวน้อยนี่ให้รู้สำนึกว่าการยั่วมนุษย์แบบนี้มันจะมีผลยังไง! มือหนาตะปบเอวหมับก่อนจะแทรกกายที่แข็งขืนสวนเข้าไปในเส้นทางที่คับแคบ ใบหน้าหวานนิ่วหน้าความปั่นป่วนกรงเล็บจิกเข้ามาที่ไหล่แกร่งเพื่อระบายอารมณ์


      "อี้ฟานจื่อเทาเจ็บ"  ผมยิ้มกริ่มก่อนจะโน้มใบหน้าจูบซับน้ำตาที่ปริ่มอยู่ กระซิบเสียงทุ้มนุ่มหูเพื่อปลอบขวัญ


"เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ" หลังจากนั้นก็บรรเลงรักอย่างโชกโชน เสียงครางกระเส่าหวานแหวยิ่งเพิ่มความกระสันภายในเป็นอย่างดี ผมมองวงหน้าของคนที่อยู่ในห้วงอารมณ์ไม่วางตา ดวงตาเรียวกำลังเปล่าปรือด้วยอารมณ์วาบหวิว กลีบปากบางขบเม้มจนแดงระเรื่อและฉ่ำน้ำ กลุ่มผมสีดำขลับกำลังชื้นเหงื่อแลดูชวนมอง แรงกระเพื่อมของแผ่นอกหอบหายใจไปกับจังหวะรักที่ผมกำลังปรนเปรอเขา ก่อนที่ทุกๆอย่างจะถึงจุดขีดสุดของมัน....
    "อ๊า!!"


              ผมมองจื่อเทาที่หลับอยู่เคียงข้างด้วยความรู้สึกที่เอ็นดูก่อนจุมพิตไปที่กลุ่มผมนิ่มสีดำขลับ ความรู้สึกอิ่มเอมทำให้ผมรู้สึกไม่อยากละจากเจ้าแมวน้อยขี้เซานี่เลยให้ตายสิ!

"จื่อเทาหิวไม่ใช่หรอ"


               "อืม" น้ำเสียงหวานครางในลำคอตอบและค่อยๆปลือตามองผมที่ถาม ดวงตาเรียวคมสวยช้อนขึ้นมองพลางระบายยิ้มให้ผมจนตาหยีก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักตอบ ผมจึงค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งทอดมองวงหน้าหวานเกลี่ยไรผมนิ่มของจื่อเทาอย่างเพลินมือ


"กินอะไรกันดีล่ะ" ผมถามเด็กหนุ่มที่ขยี้ตาไปมาแลดูน่ารักบอกตามตรงผมอยากจะจับกดจื่อเทาอีกครั้งถ้าไม่ห่วงว่าแมวตัวนี้จะหิวจนปวดท้องเสียก่อน...


                "จื่อเทาอยากกินปลา" ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตอบ และลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อหาอะไรให้ลูกแมวขี้อ้อนคนนี้ทานเป็นมื้อเช้า  จื่อเทาลุกขึ้นตามผมบ้างก่อนจะกระโดดตัวผลุงไปที่จานข้าวของเขาและนั่งรออยู่ตรงนั้นเหมือนอย่างที่เคยๆทำ ทำให้ผมถึงกับถอนหายใจเฮือกและยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู


"ไม่ใช่จื่อเทาเป็นคนแล้ว ไม่ใช้แล้วล่ะจานใบนี้" ผมหยิบจานที่อยู่ตรงหน้าออกมาทำให้เด็กหนุ่มย่นหน้าผากพลางเบะปากแลดูน่ารัก


                   "อี้ฟาน ให้จื่อเทานี่" พร้อมๆด้วยดวงตาเรียวที่มองผมตาปริบๆ...


"จานนี้เลิกใช้แล้วมาใช้ของคนเข้าใจไหม" แล้วจื่อเทาก็ส่ายหน้าไปมาอีกครั้งทำให้ผมรู้สึกลำบากใจไม่น้อย ก้มลงมองแผ่นอกที่เปล่าเปลือยของจื่อเทาซึ่งพาลให้ผมจะตบะแตกอีกครั้งเสียให้ได้ เดินฉับๆไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืดของผมสวมให้จื่อเทาแต่ดูท่ามันจะใหญ่จนเกินไปทำให้ดูเหมือนเด็กหนุ่มกำลังใส่กระโปรง...
ฮึ่ม... อดใจอี้ฟาน

ผมวางจานข้าวไว้ตรงหน้าจื่อเทาและวางปลานึ่งที่ทำเสร็จมาใหม่ๆเห็นดวงตาที่เป็นประกายของจื่อเทาแล้วทำให้ผมต้องหลุดขำก่อนจะบอกให้เด็กหนุ่มลงมือทานอาหารตรงหน้าเสีย
"กินซะสิจื่อเทา"  เด็กหนุ่มพยักหน้ารัวๆก่อนจะก้มหน้าลงไปไปที่ปลาตัวนั้นทำให้ผมตกใจจนต้องเอื้อมมือห้ามไว้แววตาของความฉงนสงสัยช้อนขึ้นมองผมตาปริบๆ


"ไม่ได้เป็นคนแล้วนะจื่อเทา" ผมตำหนิเสียงดุ แต่พอเห็นดวงตาที่หลูบลงทำให้ผมใจอ่อนและถอนลมหายใจออกมาดังเฮือก


"คนเขาต้องใช้ช้อนใช้ตะเกียบแบบนี้เข้าใจไหม" ผมทำให้จื่อเทาดูเป็นตัวอย่างและดูท่าเด็กคนนี้จะสนใจไม่น้อยและหยิบตะเกียบขึ้นมาบ้าง ลองคีบอย่างที่ผมทำแต่ทว่ากลับทำไม่สำเร็จเมื่อข้อมือเรียวนั้นอ่อนปวกเปียก ผมจึงถอนลมหายใจยกยิ้มออกมาบางๆลุกขึ้นเดินไปซ้อนหลังของจื่อเทาเพื่อสอน


"ทำแบบนี้นี่" ผมจับนิ้วเรียวขยับขึ้นลงโดยมีสายตาเรียนรู้จับจ้องตลอด และปล่อยให้เด็กหนุ่มทำบ้างและจื่อเทาก็เรียนรู้ได้ไวจนน่าทึ่ง คีบเนื้อปลาใส่จานข้าวของตัวเองได้สำเร็จ ดวงตาเรียวคมช้อนขึ้นมองผมตาเป็นประกายพลางยกยิ้มให้ผมอย่างตื่นเต้น กลีบปากรูปกระจับนั่นผมกำลงมองไม่วางตาและอยู่ๆจื่อเทาก็เลียมาที่ริมฝีปากผมแผลบ


"จื่อเทาทำอะไร" ผมถามด้วยความตกใจ


            "ขอบคุณอี้ฟาน" แล้วผมก็เพิ่งฉุกคิดได้ว่าจื่อเทาชอบทำแบบนี้กับผม...
อา... มันก็ดีอยู่หรอกนะที่จื่อเทาทำแบบนี้แต่ว่าผมคงต้องสอนเจ้าแมวขี้อ้อนคนนี้อีกเยอะเลยสินะ...
 




ผมรีบกลับบ้านด้วยความเร่งรีบหลังจากที่เคลียร์งานทุกอย่าเสร็จสิ้นด้วยเหตุผลที่ว่ามีลูกแมวขี้อ้อนรออยู่ที่บ้าน แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะแวะเวียนดูเพื่อนของจื่อเทาตามที่เด็กหนุ่มร้องขอ คลินิกแมวจึงเป็นที่แรกที่ผมจะแวะ


"อ้าวพี่อี้ฟาน"   ผมยิ้มทักเซฮุนน้องชายเพื่อนสนิทที่เดินออกมาจากห้อง


               "แมวตัวนั้นเป็นยังไงบ้าง" ผมถามด้วยความอยากรู้


"ก็ดีขึ้นแล้วล่ะพี่ แต่คงต้องให้น้ำเกลืออีกหน่อยดีที่ว่าแค่กระดูกหักไม่มีอวัยวะฉีกขาดช่างเป็นแมวที่อึดมากจริงๆ" ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกถ้าเกิดเจ้าแมวนั่นตายขึ้นมาล่ะก็ผมคงได้นั่งปลอบเจ้าแมวขี้แยจื่อเทาข้ามวันข้ามคืนแน่ๆ


"ว่าแต่พี่เถอะเลิกกับพี่อี้ชิงแล้วใช่ไหม" ผมเงยหน้าขึ้นมองพลางพยักหน้าตอบส่งๆ


"ดีแล้วล่ะพี่ รายนั้นคงไม่กลับมาหาพี่แล้วล่ะผมเห็นเขาไปเดินควงกับประธานบริษัทอะไรซักที่นี่แหละเห็นว่าชื่อซูโฮพี่เองก็คงรู้จักนะ"


"ไอ้น้องรักเอ็งพูดอะไรให้มันระวังปากหน่อยเถอะ!" เสียงของชานยอลตะโกนดังออกมาจากข้างใน เซฮุนหันกลับไปมองพี่ชายก่อนจะหันมามองผมพลางยักไหล่


                "ไม่เป็นไรหรอกถึงยังไงพี่ก็ไม่กลับไปหาคนๆนั้นแล้วล่ะตอนนี้พี่เจอคนที่ใช่แล้ว"


"โอ้โหพี่ไฟแรงนะเนี่ย เอาน่าหล่อๆอย่างพี่เลือกได้นะ ว่าแต่อย่าลืมพามาโชว์ตัวล่ะ" เซฮุนตบไหลผมพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ผมจึงยิ้มกลับและปัดมือไอ้เด็กลามปามนี่ออกไป


                  "ถ้าเจ้าแมวตัวนั้นหายดีเมื่อไรพี่จะพาแฟนพี่มาก็แล้วกัน ว่าแต่พี่ขอบใจเรามากเลยนะที่รับเลี้ยงแมวตัวนั้น"


"โหยพี่เรื่องแค่นี้ ผมอยู่บ้านคนเดียวก็เหงามีเพื่อนบ้างก็น่าจะดี"  ผมพยักหน้าและเอื้อมมือตบไหล่น้องชายเพื่อนก่อนจะขอตัวกลับบ้านเพื่อกลับไปบอกข่าวดีให้จื่อเทาได้รู้ แต่พอผมขับรถใกล้ถึงบ้านกลับเห็นคนมากมายกำลังมุงดูอะไรบางอย่างพร้อมๆกับตำรวจหน่วยกู้ภัยกำลังมาอออยู่ที่หน้าคอนโดของผมๆจึงลงมาจากรถเพื่อมาถามคนที่อยู่ข้างนอก


         "เกิดอะไรขึ้นหรอครับ"


"จะอะไรซะอีกล่ะมีคนคิดจะฆ่าตัวตายนะสิ โน่นน่ะเห็นนั่งห้อยขาลงมาจากระเบียงนานแล้ว"  ผมเงยหน้ามองไปตามนิ้วที่ป้าคนนี้เขาบอกผม ทันทีที่ผมเห็นภาพมันทำให้หัวใจของผมแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อเห็นจื่อเทากำลังนั่งห้อยขาตรงระเบียงหันออกมาข้างนอกตัวตึก แถมด้วยการแกว่งขาอย่างสบายใจไม่ฟังเสียงที่กำลังตะโกนเตือนว่าให้กลับเข้าไปเลยสักนิด
จื่อเทา!

"จื่อเทา! แฮ่ก โอย!" ผมเปิดประตูบานเลื่อนและเรียกเจ้าแมวแสนซนด้วยอาการหอบเหนื่อย จื่อเทาหันมาทางผมพลางฉีกยิ้มหวานด้วยความดีใจและตั้งท่าจะขยับตัวกลับเข้ามาในบ้านยิ่งเพิ่มความหวาดเสียวให้กับผมเป็นเท่าตัว


       "พี่อี้ฟานกลับมาแล้ว"


"หยุดจื่อเทา! อยู่เฉยๆ" ผมสั่งห้ามจื่อเทาเด็กหนุ่มเคียงคอทำท่าสงสัยเหมือนจะถาม  ผมแต่ผมไม่รอช้ารีบเข้าไปคว้าตัวของจื่อเทาเอาไว้ในอ้อมกอดและดึงตัวเข้ามาข้างในบ้าน หัวใจยังรู้สึกเต้นแรงจนแทบจะทะลุ


"จื่อเทาทำแบบนี้ทำไมรู้ไหมว่ามันอันตราย!" ผมตวาดลั่นด้วยความโกรธและเป็นห่วง

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มค่อยๆหุบยิ้มลงอย่างช้าๆและทำคอตกจนน่าสงสาร
            "ก็จื่อเทาเบื่อนี่ปกติจื่อเทานั่งตรงนั้นพี่อี้ฟานไม่เห็นจะเคยบ่น" น้ำเสียงใสเจือแจ้วตอบกลับจนน่าปวดหัวผมยกมือกุมหัวไม่รู้จะอธิบายให้เจ้าแมวนุษย์นี่ยังไง ก่อนจะปรับอามรณ์ของตัวเองนั่งลงข้างๆจื่อเทาที่มองผมตาปริบๆ


"ตอนนี้จื่อเทาเป็นคนแล้วนะหรือจื่อเทาอยากกลับไปเป็นแมว" ใบหน้าหวานส่ายหน้าไปมาแทบจะทันที ผมถอนลมหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจับไหล่บางให้หันมาสบตากับผม


"ตั้งแต่นี้ต่อไปจื่อเทาห้ามทำแบบนี้อีกนะ  รู้ไหมพี่แทบหัวใจวายตาย"


         "ไม่นะพี่อี้ฟานห้ามตาย!" น้ำเสียงตื่นตกใจแทบทำให้ผมหลุดขำพรืด หันใบหน้ามองจื่อเทาที่เบิกตาโพลงทำท่าทางตื่นตกใจจนน่ารัก


"ถ้างั้นก็ห้ามทำแบบนี้อีกนะอยู่ห่างระเบียงเลยยิ่งดี"


           "แล้ว... ไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้านได้ไหม"


"เพื่อนข้างบ้าน?" ผมขมวดคิ้วถามเด็กหนุ่มจื่อเทาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะคุยจ้อออกมา


               "ก็เปอร์เซียข้างบ้านไงจื่อเทาชอบปีนไปเล่นกับเขาบ่อยๆนิสัยดีมากๆเลยล่ะ"


"เดี๋ยวนะๆจื่อเทาปีน... ปีนนี่คืออะไร"


               "ก็เวลาที่พี่อี้ฟานไม่อยู่จื่อเทาเหงาก็เลยแอบปีนไปบ้านตรงข้าม แต่มันปีนยากมากเลยล่ะเพราะจื่อเทาไม่ได้ปราดเปรียวเหมือนตอนเป็นแมว" คำตอบของจื่อเทาทำให้ผมหน้าชาไม่น้อยเบิกตาโพลงด้วยความตกใจและยกมือขึ้นกุมขมับที่ปวดหนึบ แทบอยากจะร้องไห้ออกมา นี่ถ้าผมกลับมาบ้านแล้วได้รับข่าวร้ายว่ามีคนตกลงมาจากชั้นสี่ผมจะทำยังไงกันนะ!


"จื่อเทา... ต่อไปนี้ห้าม! ห้ามปีนห้ามป่ายห้ามๆๆๆ ที่เกี่ยวกับแมวลืมไปเลยสัญชาติญาณของความเป็นแมวไม่อย่างนั้นพี่นี่แหละจะตายแทนจื่อเทา!"

          เจ้าแมวขี้สงสัยเอียงคอมองอี้ฟานที่เริ่มจะบ้าตายเพราะปวดหัวเรื่องที่ได้รับฟัง ทอดมองอี้ฟานที่ยีหัวของตัวเองไปมาว่าจะทำยังไงให้จื่อเทาเลิกทำนิสัยแบบนี้เสีย ในใจของจื่อเทารู้สึกไม่ดีนักที่เห็นอี้ฟานโกรธแบบนี้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากนักหรอกที่จะทำให้อี้ฟานหายโกรธ เพียงแค่เข้าไปกอดและซุกหัวนัวเนียเข้ากับแผ่นอกนั่นอี้ฟานก็ฉีกยิ้มกว้างให้เห็นแทบลืมโกรธ


             "พี่อี้ฟานไม่รักจื่อเทาหรอ..." น้ำเสียงออดอ้อนยานคางถามเสียงหวานพลางช้อนดวงตาขึ้นมองอี้ฟาน ทำให้คนที่ถูกอ้อนจ้องวงหน้าหวานนิ่งก่อนจะถอนลมหายใจออกมาดังเฮือกโอบกอดร่างบางเอาไว้เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อน


"รักสิไม่รักจะห่วงมากขนาดนี้หรอ"  รอยยิ้มสดใสยิ้มให้อี้ฟานจนตาหยีก่อนจะเขย่งปลายเท้าหอมแก้มอี้ฟานด้วยความคิดถึง...

ว่าแต่... การที่จื่อเทาออกไปเล่นกับเพื่อนบ้าน การที่จื่อเทาชอบนั่งเล่นที่ระเบียง และการที่จื่อเทาชอบปีนตู้กระโดดตบแมลงที่แอบบินเข้ามาในห้องจื่อเทาผิดตรงไหน...

"พี่อี้ฟานพรุ่งนี้จื่อเทาขอไปเล่นกับเพื่อนบ้านอีกนะ"

         "ไม่ได้!!!"  


 



END