วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

ฉากที่ถูกตัด ฟิคลำนำบุปผา ตอน เส้นทางเเห่งรัก


#ฟิคลำนำ #บุปผาระทม
อย่าลืมเม้นโหวตบ้างนะคะ^^




ค่ำคืนอันหนาวเหน็บเนิ่นนานดั่งหยุดเวลาเอาไว้ สองร่างกายต่างกอดเกยแนบชิด วงแขนแกร่งโอบกอดเอวบาง โน้มชายหนุ่มจูบประทับซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ดวงตาเรียวคมหยาดเยิ้มดุจน้ำค้างกระทบแสง ทอดมองอี้ฟานพลางย่นคิ้วเข้าหากันแน่น ความอ่อนโยนยิ่งทำให้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้ม ล่องลอยประดุจปุยเมฆนุ่มบนท้องนภา นิ้วแกร่งเกลี่ยใบหน้า เชยชมตราตรึงเนิ่นนานดื่มด่ำซึมซับเข้าสู่ห้วงหัวใจ ก่อนจะก้มลงจูบประทับดูดดื่มอีกครั้งและอีกครั้ง
วงแขนบางโอบรอบลำคอแกร่ง ดวงตาหลับพริ้มรับเรียวลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดอยู่ภายใน ร่างกายร้อนระอุดั่งไฟโหมกระหน่ำ ยามเมื่อมือแกร่งลูบไล้ผ่านไปตามเนื้อผ้า ยิ่งสร้างความกระสันจนร่างกายรู้สึกสั่นสะท้าน
ดวงตาเรียวคมจับจ้องดวงตาที่เชื่อมมอง พวงแก้มเห่อร้อนแดงระเรื่อดั่งผลท้อสุก กลีบปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ร้าย พลางล้วงมือหยาบไปตามสาบเสื้อที่หลุดหล่นลงมา สัมผัสผิวเนียนละเอียดดั่งขนแมวของชายหนุ่มผะแผ่ว...
"อือ..." เพียงแค่สัมผัส ร่างกายกลับตอบสนองเต็มเปี่ยม ความรู้สึกนี้เป็นเพียงเฉพาะอี้ฟานเท่านั้น รู้สึกร่างกายปั่นป่วนเจียนตาย ใบหน้าหวานเห่อร้อนหลับตาแน่น ร่างกายเกร็งจนอี้ฟานอดขำไม่ได้ มือหยาบลูบไปตามกาย ไล่ไปตามหน้าอก ลูบไล้ไปตามสะโพกมนอย่างช้าๆ โน้มตัวกระซิบเข้าหา เอ่ยเรียก "จื่อเทา..." น้ำเสียงช่างอ่อนโยนยิ่งนัก
ค่อยๆลืมตามองอย่างช้าๆ สบดวงตาคมที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจที่เป่ารด "มองข้าสิ" คำกระซิบเอ่ยสั่งดั่งสายลม ก่อนจะก้มลงดื่มด่ำความหวานจากกลีบปากกระจับนุ่มนิ่ม ค่อยๆปลดเสื้อผ้าของตนออกไป เผยให้เห็นอกแกร่ง ยามใดที่จื่อเทาสัมผัส ยิ่งรู้สึกขวยเขินในใจยิ่งนัก ร่างกายนี้ร้างลามานาน แต่กลับจดจำได้ขึ้นใจ
เมื่อผละออกมาจากกลีบปาก ดวงตาของจื่อเทาจับจ้องไปยังผ้าพันแผลบนหน้าอกนั่นของอี้ฟาน ย่นคิ้วด้วยสีหน้าประหลาด ก้ำกึ่งความกังวลใจและเจ็บปวด หัวใจกระตุกเกร็งทุกครั้งเมื่อเห็นบาดแผลนี้ ไล่ดวงตาขึ้นมา ยังเห็นร่องรอยจากบาดแผลพยัคฆ์ ชายหนุ่มยกมือเรียวสัมผัสด้วยหัวใจสับสนว้าวุ่น
ทำไมข้าถึงรู้สึกกลัว...
ยามเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าของจื่อเทา ช่างน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ชายหนุ่มเจ็บปวดเพราะเห็นข้าบาดเจ็บหรือนี่ แม้ไม่เอ่ยถาม แต่ก็รู้ว่าจื่อเทาห่วงข้ามากเพียงใด ค่อยๆจับมือเรียวที่สัมผัสบาดแผลเขาเอาไว้ จูบประทับสบตาจื่อเทาที่น้ำตาคลอ...
"บาดแผลนี้... ข้าเคยใช้ชีวิตเพื่อผูกใจเจ้า แต่บัดนี้ ข้ากลับคิดว่ามันคือบาดแผลที่ล้ำค่า... ทำให้ข้ารู้ตัวว่า คนที่ข้าคู่ควรมอบชีวิตให้ นั่นคือเจ้า..."
แววตาอาลัยรักทอดมอง สีหน้าเจ็บปวดนัก พอแล้ว ได้โปรดหยุดเอ่ยมันออกมา วงแขนบางโอบกอดแนบแน่น จุมพิตอี้ฟานยอมเปิดรับรักจากท่านแม่ทัพผู้นี้
ยามเมื่อกายแนบชิด ร่างกายยิ่งร้อนระอุ ชายหนุ่มกัดปากหอบหายใจรวยริน ทอดมองร่างแกร่งที่อยู่ตรงหน้า สายตาคมคู่นั้นที่ทอดมองลงมาราวกับสะกดจิตใจให้ดำดิ่ง เรียวขายกขึ้นกอดก่าย มือแกร่งหยาบกร้านลูบไล้ไปตามเนื้อกายจนอกกระสั่น  
จุมพิตบนเรียวขาข้างนั้นที่สั่นเทาดวงตาทอดมองแทบไม่กระพริบ จูบไล่ลงไปตามเรียวขากระทั่งถึงจุดอ่อนไหว ยามเมื่อเรียวลิ้นครอบงำเอาไว้ ร่างกายของจื่อเทาถึงกับกระตุกเกร็ง
"อะ... อือ..." เสียงหวานครางกระเส่า แอ่นกายบิดเร้า มือเรียวกอบกุมเส้นผมสลวยยามเมื่อริมฝีปากขยับเข้าออก พยายามปรนเปรอร่างบางร่างกายตอบสนองจนอกแทบจะระเบิด แก่นกายเบื้องร่างแข็งขืนตั้งชัน ปวดหนึบราวกับร่างจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นมัว
เสียงหวานครางสั่นเครือ "ยะ อย่า..." ยามเมื่อกลีบปากอวบอิ่มพยายามดูดดื่มมันจนหมด ราวกับน้ำหวานจากเกสรกลิ่นคาวหอมหวานคละคลุ้งภายในปาก จนอยากลองชิมลิ้มรสร่างกายจื่อเทาเสียเดี๋ยวนั้น
 ขยับกายทาบทับร่างกายของชายหนุ่ม มือแกร่งลูบไล้ไปตามแผงอกที่สั่นเทา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายยกยิ้ม อดไม่ได้ที่จื่อเทาจะก่นด่าในใจ แต่ก็ต้องหลับตาลงอย่างช้าๆ ยามเมื่อร่างแกร่งทาบทับลงมาจนกายแนบชิด ริมฝีปากอวบอิ่มประทับจูบแผ่วเบา ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วง เกี่ยวกระหวัดลิ้นภายในกระพุ่งแก้มนิ่ม รับรู้รสชาติปร่าลิ้นที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง
"อือ..." วงแขนบางโอบรัดรอบคอลำคอแกร่ง เมื่อร่างกายไม่อาจทนได้อีกต่อไป จื่อเทาต้องการอี้ฟานมากกว่านี้ มือหยาบลูบไปตามแผงอกความร้อนในกายยิ่งปะทุเพิ่มทวี กลิ่นหอมจากผิวกายจื่อเทาราวกับผลไม้ที่หอมหวานจนอยากลิ้มลอง อี้ฟานเลียริมฝีปากก่อนจะยกยิ้มบาง ขบเม้มไปที่ลำคอระหงส์ ทำให้จื่อเทาครางหวาน เสียงที่ฟังดูแปลกหูนั้นแทบทำให้เขารู้สึกบ้า!
มือแกร่งรูดคลึงจุดที่อ่อนไหวอีกครั้ง ทำให้ร่างบางกระตุกเกร็ง ขยับแนบชิดเข้าหาอี้ฟานแทบไม่มีช่องว่าง เรียวขาหนีบรั้งกระทบผิวกายที่แข็งแกร่ง
ต้องการมากกว่านี้...
ดวงตาเชื่อมปรือขึ้นทอดมอง หยาดเยิ้มดั่งน้ำค้างต้องแสงแพรวพราว อี้ฟานทอดมองอย่างโหยหา อยากดูดซับน้ำตาที่เอ่อคลอ
ทำไมถึงได้ยั่วยวนหัวใจข้าถึงเพียงนี้จื่อเทา...
"อะ อา!!!"
ยามเมื่อชายหนุ่มเผลอไผล แก่นกายอันแข็งขืนสวนเข้ามาภายในช่องแคบเบื้องล่างอย่างช้าๆ นิ้วเรียวดึงรั้งแผ่นหลังแกร่ง กัดฟันข่มความเจ็บเจียนตาย หอบหายใจหนักแทบสิ้นลม อี้ฟานพยายามปลอบประโลมด้วยจุมพิตแผ่วเบา จูบซับน้ำตาปริ่มเอ่ยเรียกชายหนุ่ม ราวกับปลอบขวัญให้ใจจื่อเทาคิดคำนึงแต่เสียงเรียกหานี้
ไม่นานนัก แก่นกายสวนผ่านช่องทางอันคับแคบจนสุดทาง แต่ก็ทำให้ร่างกายชายหนุ่มแทบกระอัก แม้รู้สึกเจ็บ แต่ก็สุขในคราเดียวกัน ปรือดวงตาหยาดเยิ้ม คิ้วเรียวขมวดเข้าหาสบตาอี้ฟานที่ทอดมองลงมาไม่หลบลี้ อยากจดจำดวงตาคู่นี้เอาไว้ให้นานที่สุด
รอยยิ้มละไมแย้มยิ้มอ่อนโยนช่างอบอุ่นยิ่งนัก ฝ่ามืออุ่นกอบกุมใบหน้าราวกับโหยหาเนิ่นนาน อี้ฟานไม่เคยรู้สึกหวงแหนใครได้เท่านี้อีกแล้ว จื่อเทาเจ้ารักข้าบ้างหรือไม่...
โน้มตัวลงประทับจุมพิตอีกครั้ง ก่อนจะกอดร่างบางแนบแน่น วงแขนบางโอบกอดตอบสนองร่างกายแกร่ง รับความร้อนระอุที่ปะทะเข้ามา บทเพลงรักนี้เนิ่นนานจนหาจุดสิ้นสุดมิได้ กอดก่ายประสานกลมกลืนร่างเป็นหนึ่งเดียว ข้ายอมรับในรักจนไม่อาจฉุดรั้งขึ้นมา ไม่อาจหลุดออกจากราคะที่อัดแน่นเต็มหัวใจ ตอบสนองทุกการสัมผัส ไม่คิดหยุดยั้งหรือปฏิเสธอีก รู้แค่เพียงว่าต้องการเพียงแค่เจ้ามากเท่านั้น ใจข้า... ไม่อาจตัดใจจากจื่อเทาได้อีกแล้ว...
เสียงของเจ้า หัวใจของเจ้า ยังคงดังก้องอยู่ในใจข้าดวงนี้...
'ท่านรู้สึกเช่นไรกับข้า...'
'ความรู้สึกของข้า ก็เหมือนกับหัวใจของเจ้านั่นล่ะ...'
'ฮึ เหมือนข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าคนโกหก...'

'ฮะฮะ...'